เซาธ์เกต สร้างประวัติศาสตร์, อังกฤษ ของจริงลิ่วชิง ยูโร

เซาธ์เกต สร้างประวัติศาสตร์, อังกฤษ ของจริงลิ่วชิง ยูโร
แกเรธ เซาธ์เกต สร้างประวัติศาสตร์ พาอังฤษ เข้าชิงชนะเลิศรายการ เมเจอร์ ติดต่อกัน 2 ทัวร์นาเม้นต์!!!

ทั้งบอลโลก, บอลยูโร ไม่เคยมี ผจก คนไหนที่พาอังกฤษมี “ผลงาน” ได้ดีขนาดนี้นับจากหมดบอลโลก1966 เป็นต้นมา

ถึงจุดนี้แล้ว แม้กระแสเทไปที่สเปน แต่…บอลนัดชิง นัดเดียว มาเจอกับทีมที่ปรับรูปแบบสไตล์ ระหว่างทัวร์นาเม้นต์ แถมมีทีเด็ดในการเล่นเพื่อชนะอีกต่างหาก

อะไรก็เกิดขี้นได้

เหมือนดัขท์ ที่คุมเกมช่วงครึ่งหลังแต่กลับพบว่าพวกเขาต้องกลับบ้านก่อนซะแล้ว

นอกจากเยอรมนีแล้วเพื่อนบ้านเจ้าภาพ ตกรอบกลับครบแล้ว เหลือ 2 ทีมที่ไม่มีพรมแดนติดเยอรมนี มาลุ้นแชมป์ยูโร กันเอง

ดัชท์ 4-3-3 vs 3-4-2-1 สิงโต

คูมัน ปรับปีกขวา ส่ง ดอนเยลล์ มาเลน ลง แทน เบิร์กไวน์ นอกนั้นชุดเดิม ส่วน เซาธ์เกต ก็ใช้ชุดเดิมที่ชนะ จุดโทษ สวิส โดย ลุค ชอว์ ยังสำรอง 

ดัชท์ได้เร็ว

ไรส์ เสียบอลแถบฮาล์ฟ สเปส ด้านซ้ายในแดนตัวเอง โดน ซิมอนส์ แย่งได้ก่อนพามายิงระยะ 20 หลาบอลพุ่งผ่าน พิคฟอร์ด เข้าไป 

อัศวินสีส้มนำก่อน1-0 แค่7 นาที

ครึ่งแรกที่ดีสุดของสิงโต&เมนู

หลังโดนก่อนเหมือนปลุกสิงโต พวกเขาลุยใส่ทันที ทั้งวิธีการเล่น รูปเกม น่าจะเป็นที่พอใจต่อแฟนๆ สิงโตอย่างยิ่ง ทีมเซาธ์เกต ครองบอลเบ็ดเสร็จ หลังจากโดนนำน. 7 จนได้ประตูตีเสมอ จากจุดโทษ

จุดโทษ มั้ย จังหวะ ดุมฟรีส แหย่เท้าสกัด หลัง เคน ยิงข้ามคาน จังหวะนี้ นักวิเคราะห์ เสียงแตก ส่วนใหญ่มองว่า ไม่ใช่จุดโทษ แม้แต่ แกรี เนวิลล์ ก็ตาม ยังบอกว่าไม่ควรให้ “น่าอายมาก“ ที่ผู้ตัดสิน ให้จุดโทษ

จากนาทีที่ 18 ทีม ดัชท์ รับอย่างเดียว อังกฤษเดินเกมพับสนามบุก โจมตี ทั้งด้านข้าง หน้าไลน์ ซึ่ง ทีมดัชท์ ดูหลวมๆ มีพื้นที่ให้นักเตะสิงโต กดถึงหน้าบ้าน เพียงแต่จังหวะจบยังไม่ได้เท่านั้น

แต่บอลบุกแบบนี้ถูกใจแฟนๆแน่นอน

ขณะที่ดัชท์ ต้องเปลี่ยน เมมฟิส เดอปาย ออก

โดย คอบบี เมนู เด่นมากๆ กับการเล่นเบอร์8 ที่กล้าเล่น กล้าลุย แถมตัดบอลได้บ่อยๆ โฟเดน ก็ เดินเกมรุกหน้าไลน์ ได้ดี เกือบยิงได้ จากชนเสา และ ดุมฟรีส สกัดจากเส้น หลังทำชิ่ง กับ เมนู

ครึ่งหลังของดัชท์30 นาที

คูมัน ปรับตัวผู้เล่น หลังครึ่งแรกเป็นรองเยอะ แถมไม่ได้โต้เลย มาเลน ต้องออก ส่ง เว้าต เวกฮอร์สท์ มายืนเป้าแทน  ส่วนอังกฤษ ส่ง ชอว์แทน ทริพเพียร์

15 นาทีแรกครึ่งหลังยังทรงๆ แต่จากนั้นจนถึงช่วงก่อนหมดเวลา ดัชท์ ครองบอลได้ดีกว่า สามารถคุมเกม ได้ ส่วนอังกฤษกลับมาเหมือนเดิม เน้นเพลย์ เซฟ ไม่หวือหวา แม้มีจังหวะ ซาก้า ยิงเข้า แต่ล้ำหน้าก่อน ส่วน ดัชท์ มีจังหวะให้ พิคฟอร์ด ออกแรงพอสมควร

เซาธ์เกต หยิบถูกตัว??

10 นาทีท้าย เซาธ์เกต ตัดสินใจแก้ลำ ด้วยการเลือก โอลลี วัตกิ้นส์ และ โคล พาลเมอร์

วัตกิ้นส์ สร้างปัญหาให้ ฟานไดจ์ บ่อยๆ ในPL การไม่หยิบโทนี น่าจะ เผื่อต่อเวลา และ วัตกิ้นส์ มีประโยชน์ ในการดวลกับ ฟานไดจ์ และ เดอ ฟราย ที่ภาคพิ้นดิน 

ทั้ง มีความสด เป็นsurprise กองหลังได้อีก 

เมื่อมี พาลเมอร์ เทพแห่งการเล่นบอลช่อง อยู่หน้าไลน์ พอ วัตกิ้นส์ ออกตัว แทงให้ในเขต ตัวประกบอย่าง

เดอ ฟราย ชะล่าใจ เจอพลิกในระยะ12 หลาแล้วตวัดยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด

มันคือประตูส่งอังกฤษ เข้าชิงชนะเลิศ2 สมัยติดต่อกันเป็นประวัติศาสตร์

การเข้าชิงชนะเลิศท่ามกลางเสียงวิจารณ์ มากมาย

ไร้ทรง บ้าง อะไรบ้าง ของอังกฤษ ต้องให้เครดิตกับผลงานที่เกิดขึ้น

บอลฟลุค 6 นัด แล้วชิง ไม่มีหรอกครับ

มันแค่วิธีการเล่นไม่โดนใจเท่านั้น (โดยเฉพาะการโจมตี) แต่มันก็มีวิธีการที่จะทำให้ชนะในเกมได้

ยังไงเสีย14 ก.ค. นี้ ผลออกแบบไหนเรื่องหนึ่ง

แต่ทีมสิงโต ถือว่าได้กำไรแล้ว แค่มากหรือน้อยเท่านั้นเอง


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport