ผลบอล : โอลลี่ วัตกิ้นส์ ฮีโร่ซัดทดเจ็บ! อังกฤษ ทุบ เนเธอร์แลนด์ ลิ่วชน สเปน ชิงยูโร2สมัยติด

สนาม : เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์

ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา "สิงโตคำราม" อังกฤษ หนังเหนียวสองรอบติดพลิกจากตามหลังมาเฮ โดยรอบที่แล้ว ดวลเป้าเขี่ย สวิตเซอร์แลนด์ ปะทะ "อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ที่กำราบ ตุรกี ลุ้นลิ่วชิงดำอีกครั้งรอบ 36 ปี

เริ่มเกมเพียง 7 นาที ซาฟี ซิมอนส์ แย่งบอลจาก เดแคลน ไรซ์ กระชากบอลมาหน้ากรอบเขตโทษ ซัดตู้มเดียวบอลพุ่งเฉี่ยวมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ซุกตาข่ายสุดสวย ทัพดัตช์ นำ 1-0

อีกหกนาที จู๊ด เบลลิงแฮม ถ่ายบอลจากซ้ายมากลางสนาม แฮร์รี่ เคน จับบอลพร้อมส่องไกลติดเซฟ บาร์ท แฟร์บรุคเค่น 

จากนั้นนาที 16 แฮร์รี่ เคน วอลเลย์บอลในเขตโทษโดน เดนเซล ดุมฟรีส แหย่เท้าบล็อกเปิดปุ่มสตั๊ดจนล้มลง กรรมการดูวีเออาร์ชี้จุดโทษ หัวหอกกัปตันทีมสิงโตคำรามยิงเรียดเสียบมุมซ้ายล่างตีคืน 1-1

ทัพผู้ดีหวิดแซงนาที 23 ฟิล โฟเด้น หลุดมาถึงกรอบ 6 หลาแปบอลลอดหว่างขานายทวารคู่แข่งกำลังจะข้ามเส้น เดนเซล ดุมฟรีส แก้ตัวยืนแตะบอลก่อนเคลียร์ทิ้ง

อัศวินสีส้มเกือบทำได้นาที 30 ซาฟี ซิมอนส์ วางเตะมุมทางขวา เดนเซล ดุมฟรีส เทคตัวโหม่งบอลชนคานบนอย่างจังลอยออกหลัง

ถัดมาสองนาที บูคาโย่ ซาก้า จ่ายบอลฝาก ฟิล โฟเด้น บรรจงปั่นเกือบ 25 หลาบอลเลี้ยวเช็คเสาซ้ายเหลี่ยมนอก

ท้ายครึ่งแรกนาที 39 ค็อบบี้ เมนู ไขว้หลังสะกิดบอลจังหวะเดียว ฟิล โฟเด้น จับแล้วซัดบอลไม่ผ่านมือ บาร์ท แฟร์บรุคเค่น พุ่งรับไร้ปัญหา

หมด 45 นาทีเสมอกัน 1-1

เปิดครึ่งหลังนาที 65 โจอี้ เฟียร์แมน โยนฟรีคิกบอลโด่งมาในเขตโทษ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ชิงเหลี่ยม ไคล์ วอล์คเกอร์ ยิงตามน้ำ จอร์แดน พิคฟอร์ด ล้มตัวปัดเต็มที่ออกหลัง

ผ่านถึงนาที 77 โกดี้ คักโป เปิดบอลทางกราบซ้าย มาร์ค เกฮี โขกทิ้งบอลมาที่ ซาฟี ซิมอนส์ วอลเลย์บอลกระดอนตรงตัวนายทวารผู้ดี

สิงโตคำราม เซ็งหนักนาที 79 ฟิล โฟเด้น แทงบอลออกขวา ไคล์ วอล์คเกอร์ สอดปาดเรียด บูคาโย่ ซาก้า ยิงบอลตุงตาข่าย ไลน์แมนจับล้ำหน้าซะงั้น

แต่แล้วนาที 90+1 โคล พาลเมอร์ แทงบอลมาถึง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ตะบันในเขตโทษฝั่งขวาบอลหนีมือ บาร์ท แฟร์บรุคเค่น เสียบตาข่ายอีกฟาก จบเกม อังกฤษ ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ทะลุชิงยูโรสองหนติดถัดจากปี 2020 ลุ้นแชมป์ใบนี้สมัยแรกกับ สเปน ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เนเธอร์แลนด์ (4-3-3): บาร์ท แฟร์บรุคเค่น,เดนเซล ดุมฟรีส (โจชัว เซิร์กซี น.90+3),สเตฟาน เดอ ฟราย,เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,นาธาน อาเก้,แยร์ดี้ เชาเท่น,ซาฟี ซิมอนส์ (ไบรอัน บร็อบบีย์ น.90+3),ทียานี่ ไรน์เดอร์ส,ดอนเยลล์ มาเล่น (เวาต์ เว็กฮอร์สต์ น.46),เมมฟิส เดอปาย (โจอี้ เฟียร์แมน น.35),โกดี้ คักโป

อังกฤษ (3-4-2-1): จอร์แดน พิคฟอร์ด,ไคล์ วอล์คเกอร์,จอห์น สโตนส์,มาร์ค เกฮี,บูคาโย่ ซาก้า (เอซรี่ คอนซ่า น.90+3),ค็อบบี้ เมนู (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.90+3),เดแคลน ไรซ์,คีแรน ทริปเปียร์ (ลุค ชอว์ น.46),ฟิล โฟเด้น (โคล พาลเมอร์ น.81),จู๊ด เบลลิงแฮม,แฮร์รี่ เคน (โอลลี่ วัตกิ้นส์ น.81)