ชัยชนะเหนือฝรั่งเศสที่มิวนิคเมื่อคืนที่ผ่านมามีครบถ้วนทุกรสชาติและคุณสมบัติของทีมที่คู่ควรกับการเป็นแชมป์
-เอาชนะทีมที่มีศักดิ์ศรีพอฟัดพอเหวี่ยงกันได้
-ถูกนำไปก่อนและแซงกลับมาเป็นฝ่ายชนะ
-ทำประตูสำคัญในระดับ "เปลี่ยน" เกม
-ฉวยโอกาสที่มีได้ และไม่ทำผิดพลาดซ้ำเดิม
-ผ่อนสั้นผ่อนยาวรู้จังหวะว่าเวลาไหนควรเล่นอย่างไร
-มีทีมเวิร์คที่ดี ระบบทีมที่แน่น และทีเด็ดเฉพาะตัวของนักเตะบางคนเป็นมิติเพิ่มเติม
สเปนชุดนี้ของ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ มีทั้งความห้าวหาญปราดเปรียว มีทั้งความนิ่งเยือกเย็นในการรับมือสถานการณ์ตรงหน้า
ชัยชนะ 6 เกมติดต่อกันตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนามมาจนถึงนัดตัดเชือกกรุยทางเข้าสู่รอบชิงคือผลงานที่ไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
มันพิสูจน์ความยอดเยี่ยมที่สม่ำเสมอและคงเส้นคงวาของทีมลา โรฆาได้ดี
บนเส้นทางสู่เบอร์ลินของพวกเขา.. โครเอเชียทีมอันดับสามฟุตบอลโลกถูกถล่ม 0-3 อิตาลีแชมป์เก่าแพ้แบบสู้ไม่ได้ เยอรมันเจ้าภาพน้ำตาตกในนาทีสุดท้าย และล่าสุดฝรั่งเศสรองแชมป์โลกก็ยังไม่พ้นคมเขากระทิง
ทุกนัดที่ชนะซึ่งรวมถึงอีก 2 เกมที่ขนตัวสำรองยกทีมลงไปอัดแอลเบเนีย และถล่มจอร์เจียสอนบอลน้องใหม่ในรอบน็อกเอ๊าต์ สเปนล้วนทำมันด้วยความสร้างสรรค์ เปี่ยมจินตนาการ เพลิดเพลินลื่นตา เป็นฟุตบอลที่จรรโลงโลกลูกหนัง
จะมีทีมไหนบ้างที่โค่นทีมอย่าง เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และ โครเอเชีย เรียบวุธในทัวร์นาเมนต์เดียวทั้งยังเป็นในวันที่พวกเขาเหล่านั้นมีเกียรติยศล่าสุดระดับเจ้าภาพของรายการ/ รองแชมป์โลก/ แชมป์ยุโรป และอันดับสามฟุตบอลโลก ประดับตัว ด้วยชัยชนะบนผลงานที่เด็ดขาด
ยังไม่รวมถึงคู่ชิงที่จะเป็นทีมใดทีมหนึ่งแน่ ๆ ระหว่าง อังกฤษ รองแชมป์เก่า กับ ฮอลแลนด์ ที่เล่นฟุตบอลน่าชื่นชมอีกทีมในทัวร์นาเม้นต์
อาจไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเกมนัดชิงวันอาทิตย์นี้ก็ได้ ณ วันนี้คงไม่ใช่การพูดเกินเลยไปเลยถ้าจะบอกว่า สเปนคือทีมที่เล่นได้น่าประทับใจที่สุดในยูโร 2024..
-----------------
ในค่ำคืนที่เผด็จศึกฝรั่งเศส สเปนยังหนักแน่นและมั่นคง
ดานี่ การ์บาฆาล กับ โรแบ็ง เลอ น็อร์กม็องด์ ติดโทษแบน เฆซุส นาบาส และ นาโช่ ทำหน้าที่แทนไม่ขาดตกบกพร่อง
เปดรี้กองกลางคนสำคัญจบภารกิจจากอาการบาดเจ็บ ดานี่ โอลโม่ รับช่วงด้วยผลงานไร้รอยต่อ
เกมของสเปนยังคงลื่นไหลต่อบอลกันอย่างเข้าขา กดดันฝรั่งเศสตั้งแต่เสียงนกหวีดดังและใช้เวลา 5 นาทีเต็ม ๆ ไปกับการทำเกมกดดันต่อเนื่องเข้าใส่ทีมเลส์ เบลอส์
ฟาเบียน รุยซ์ ดอดไปโขกบอลทางเสาสองจากลูกเปิดของ ลามีน ยามาล ข้ามคาน เป็นการทักทายดอกแรก
แต่การคุมหลวมเพียงนิดเดียวที่เปิดช่องให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้ตักบอลให้ ร็องดาล โคโล มูอานี่ โหม่งเบา ๆ ส่งบอลเข้าหน้าต่างเสาไกลก็ทำให้สเปนเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนอย่างไม่ทันตั้งตัว
คล้ายนักมวยที่กำลังรุกไล่คู่ชกแต่เผลอถูกหมัดสวนสะกิดปลายคางทำให้เสียการทรงตัวก้นจ้ำเบ้าให้กรรมการนับแปด ทว่าเวลายังมีอีกเหลือเฟือให้แก้ตัว และสเปนก็ทำได้เสียด้วย
ในรูปเกมที่ดูสูสีขึ้น ฝรั่งเศสมั่นใจจากประตูขึ้นนำ ประกอบกับการบีบเข้าใส่อย่างรวดเร็วของนักเตะกระทิงทำให้ขุนพลน้ำหอมต้องเล่นเร็วตามทำให้เกมออกมาสนุก ไม่มีการเคาะบอลติ๊ดชึ่งเล่นช้ารอจังหวะแบบที่ถ้าเอ็งไม่ไล่ข้าก็ไม่ทำซึ่งเป็นจุดที่ฝรั่งเศสถูกวิจารณ์
บอลสนุกจากเกมที่เปิด และมันเปิดด้วยวิธีการเล่นของสเปน มีพลังงานให้สัมผัสได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นยามทำเกมรุกหรือเล่นเกมรับที่พยายามช่วงชิงจังหวะ บีบกดดันแย่งบอลคืนตั้งแต่แดนบน
และเหตุการณ์ใหญ่ที่สำคัญในระดับพลิกเกมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งแรก มันคือความงดงามแห่งคลื่นลูกใหม่..
ลามีน ยามาล กับประตูนั้น มันทั้งสวยและสำคัญ ขึ้นแท่นเป็นลูกยิงแห่งทัวร์นาเม้นต์
ก่อนจะมาถึงลูกนี้ ประตูที่สวยที่สุดในยูโร 2024 ในความคิดของผมคือลูกที่ อาร์ด้า กือแลร์ ยิงใส่จอร์เจียในเกมที่ตุรกีทุบ 3-1
ถามว่าประตูนั้นสวยไหมมันหมดจดหยดย้อยเชียวล่ะ และถามว่ามันสำคัญไหมก็สำคัญในระดับที่ทำให้ทีมขึ้นนำอีกครั้งหลังถูกตีเสมอ แต่ความสวยงามสมบูรณ์แบบในประตูนี้ของ ยามาล นั้นไม่แพ้กัน
มันคือประตูในลักษณะเดียวกัน หากความสำคัญยิ่งทวีคูณเพราะมันเกิดขึ้นในเกมตัดเชือกที่ช่วยให้เกมกลับมาเท่ากันอีกครั้ง
และไม่เพียงแค่ให้เกมกลับมาเท่ากันเท่านั้น.. แต่ประตูนี้ยังช่วยพลิกโมเมนตัมให้สเปนกลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจ คุมสถานการณ์ด้วยเกมที่เหนือกว่าฝรั่งเศสอีกหนเพราะทีมตราไก่สะดุดไปชัดเจนหลังเสียประตู
ในวัย 16 ปี 362 วัน ลามีน ยามาล แห่งบาร์เซโลน่าทำสถิติเพิ่มขึ้นอีกด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกยูโรรอบสุดท้าย
ย้อนกลับขึ้นไปในเกมเปิดหัวที่ถล่มโครเอเชีย 3-0 เขาก็เพิ่งจะทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้ายด้วยวัย 16 ปี 338 วัน และการเปิดให้ การ์บาฆาล ทำประตูได้ในเกมเดียวกันก็ยังทำให้เขาเพิ่มสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำแอสซิสต์ได้ในเกมยูโรรอบสุดท้ายเข้าไปอีก
-นักเตะอายุน้อยที่สุดที่เล่นใน เอล กลาซิโก้ บาร์เซโลน่า - เรอัล มาดริด
-นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกลา ลีกา
-นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำแอสซิสต์ให้กับบาร์เซโลน่า
-นักเตะอายุน้อยที่สุดของบาร์เซโลน่าที่ลงสนามถึง 50 เกม
-นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในรอบน็อคเอ๊าต์ของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
-นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิง 2 ประตูในเกมเดียวในศึกลา ลีกา
ตัวเลข 16 ปี 362 วันของ ยามาล เป็นยิ่งกว่าปรากฏการณ์ เพราะสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกยูโรรอบสุดท้ายเดิมที่เป็นของ โยฮัน ฟอนลาเธน แห่งสวิตเซอร์แลนด์นั้นยังมากกว่าเขาถึงหนึ่งปีครึ่ง (18 ปี 141 วัน ในยูโร 2004)
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น สเปนยังมีอะไรอีกมากมายมานำเสนอ
ความครบเครื่องของ มาร์ก กูกูเรย่า ที่ทัวร์นาเม้นต์นี้จับจองตำแหน่งแบ๊กซ้ายในทีมยอดเยี่ยม
การลงมาช่วยเกมรับ ดึงจังหวะ เรียกฟาวล์ ฆ่าเวลา ของ อัลบาโร่ โมราต้า รวมทั้งความหมดจดในแดนกลางอย่าง โอลโม่ โรดรี้ และ ฟาเบียน รุยซ์ ที่โดดเด่นกว่าบรรดากองกลางชั้นยอดของฝรั่งเศส
โรดรี้กับการผ่อนสั้นผ่อนยาวควบคุมทิศทางของเกมในช่วง 20 นาทีสุดท้ายคือมาสเตอร์พีซ กองกลางจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชะลอบอลให้ช้าลงในจังหวะที่ไม่จำเป็นต้องเร่ง กำกับการเล่นด้วยความเยือกเย็น เต็มไปด้วยเหตุผล และทำให้ฝรั่งเศสเสียจังหวะไปเอง
อยากจะให้สเปนบุกเข้ามาหาเร็ว ๆ เพื่อที่จะมีโอกาสแย่งบอลไปบุกใส่เอาประตูตีเสมอ แต่ โรดรี้ ไม่ยอมให้ฝรั่งเศสได้มีโอกาสนั้นเลย
ฟาเบียน รุยซ์ มาตรฐานยังคงสูงลิบและคงเส้นคงวา ฟอร์มของเขาไม่มีตกตั้งแต่เกมแรกจนถึงเกมนี้
โดดเด่นยามมีบอลอยู่กับเท้า เคลื่อนที่สร้างประโยชน์ยามที่บอลไม่ได้อยู่กับตัว เข้าปะทะคู่แข่ง อ่านเกมแย่งบอลจากฝ่ายตรงข้าม เซนส์ฟุตบอลสูง ให้บอลง่าย เล่นเหมือนมีตาหลัง
ขณะที่ โอลโม่ เป็นกองกลางคนละสไตล์กับเปดรี้ มีประสิทธิภาพในเกมรุกจัดและที่สำคัญคือกำลังท็อปฟอร์มในทัวร์นาเม้นต์พอดี
ประตูแซงนำ 2-1 จากเขาก็สุดยอด ขยับหลอก ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ด้วยสเต็ปเบา ๆ ใช้ข้างเท้าขวาด้านนอกวาดพาบอลไปสู่พื้นที่โล่งก่อนจะยิงผ่าน ไมค์ เมญ็อง เข้าไป
เมื่อบอลผ่านผู้รักษาประตูและพุ่งเข้าหาประตู การสกัดของ ฌูลส์ กุนเด้ แม้จะเปลี่ยนทางบอลชัดเจนแต่ในการพิจารณาว่าใครเป็นคนทำประตูนั้นเข้าใจได้ไม่ยากว่าต้องเป็นโอลโม่เนื่องจากนายทวารไม่มีโอกาสป้องกันแล้ว มันเหลือเพียงวิถีบอลที่จะเข้าประตูแน่ ๆ เท่านั้น
กรณีนี้จะต่างจากการยิงไปถูกสกัดเปลี่ยนทางโดยที่ผู้รักษาประตูยังอยู่ในวิสัยที่อาจจะป้องกันได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นคนทำประตูนี้จะกลายเป็นกุนเด้ทำเข้าประตูตัวเอง
ผมคิดว่าเกมนี้สเปนทำทุกอย่างได้สมบูรณ์ที่สุด มันเพอร์เฟกต์ไปจนถึงการเปลี่ยนตัว
เด ลา ฟูเอนเต้ ทยอยหยอดคนที่ควรใช้ตามสูตรคือนาทีที่ 60 นาทีที่ 75 และช่วงทดเวลาเพื่อฆ่าโอกาสคู่ต่อสู้
ไม่ดึง ยามาล กับ นิโก้ วิลเลียมส์ ออกเร็วเกินไปอย่างเกมที่แล้วกับเยอรมัน หากทิ้งดาวรุ่งทั้ง 2 คนไว้ขู่ฟูลแบ๊กฝรั่งเศสจนถึงช่วงทดเวลาจึงค่อยส่ง มาร์ติน ซูบิเมนดี กับ เฟร์ราน ตอร์เรส ลงมาเพิ่มความสด บดเกมให้แน่น และฆ่าเวลา
ดานี่ บิเบียน เซนเตอร์แบ๊กจากบิลเบาลงมาแทน นาบาส ที่มีใบเหลืองติดตัวเล่นยากขึ้นและมีอาการเจ็บในช่วงหนึ่งชั่วโมงของเกม ขยับ นาโช่ ไปเล่นแบ๊กขวา จากนั้นนาทีที่ 76 มิเกล โอยาร์ซาบัล กับ มิเกล เมริโน่ ก็ถูกส่งลงมาแทน โอลโม่ และ โมราต้า
จังหวะการเปลี่ยนตัวราบลื่นไม่สะดุด และเป็นส่วนสำคัญในเกมทั้งนั้น
สุดท้ายกลายเป็นฝรั่งเศสเองที่เจอความกดดันของการเร่งเอาประตูคืนทำให้ความแน่นอนที่ควรจะมีถดถอยลงไป ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ จ่ายบอลง่าย ๆ ให้ กุนเด้ แรงเกินไปบอลออกข้าง จากที่จะทำเกมบุกกลายเป็นเสียบอลให้สเปน
หรือจังหวะของ เอ็มบั๊ปเป้ ที่ได้โอกาสกระชากเข้าไปยิงช่วงท้ายเกม ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติจังหวะแตะเข้าในผ่าน บิเบียน ได้แล้วลูกนั้นอย่างน้อยเขาต้องยิงตรงกรอบ หรืออันที่จริงสามารถใส่สกอร์ล่วงหน้าได้ด้วยซ้ำ
แต่ก็นั่นล่ะครับ ความกดดันจากเวลาที่เหลือน้อยและบีบคั้นในเกมที่เดิมพันสูงขนาดนี้ มันทำให้ง่ายกลายเป็นยากได้
สเปนทำได้ดีกว่า เล่นได้แน่นอนกว่า ควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้ชัดเจนกว่า
พวกเขาคู่ควรกับการเป็นผู้ชนะ และเดินหน้าสู่นัดชิงเจ้ายุโรปอย่างมีสไตล์จริง ๆ
ตังกุย