บิ๊กโฟร์ของจริง! คอนเฟิร์ม 4 ทีมลุยรอบตัดเชือก ยูโร 2024

บิ๊กโฟร์ของจริง! คอนเฟิร์ม 4 ทีมลุยรอบตัดเชือก ยูโร 2024
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" ที่ประเทศเยอรมนี เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศเรียบร้อย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันรอบ 8 ทีม สองคู่สุดท้าย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และนี่คือสี่ทีมที่ยังคงอยู่ในทัวร์นาเมนต์ ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวอยู่ที่ตำแหน่งแชมป์ แถมเป็นสี่ทีมระดับท็อปทั้งนั้น

- สเปน


ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม  (แชมป์กลุ่ม บี) : ชนะ โครเอเชีย 3-0, ชนะ อิตาลี 1-0, ชนะ แอลเบเนีย 1-0 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ จอร์เจีย 4-1

รอบก่อนรองฯ : ชนะ เยอรมนี 2-1 (ต่อเวลาพิเศษ)

ดาวซัลโวของทีม : ดานี่ โอลโม่ และ ฟาเบียน รุยซ์ (2 ประตู)

ผลงานดีสุดใน ยูโร : แชมป์ 3 สมัย (ปี 1967, 2008 และ 2012)

ทัพ "กระทิงดุ" ของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ฟอร์มหรูมาตลอดทัวร์นาเมนต์ แถมรอบล่าสุดสามารถเอาชนะทีมเจ้าภาพอย่าง เยอรมนี มาได้ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ สเปน ชุดนี้ที่โดดเด่นทั้งเกมรับและรุก โดยยิงไปแล้ว 11 ประตู (มากสุดเท่ากับ เยอรมนี) เสียแค่ 2 ประตู (มีแค่ ฝรั่งเศส ที่เสียน้อยกว่า) เท่านั้น 

--------

- ฝรั่งเศส


ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม (รองแชมป์กลุ่ม ดี): ชนะ ออสเตรีย 1-0, เสมอ เนเธอร์แลนด์ 0-0, เสมอ โปแลนด์ 1-1

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ เบลเยียม 1-0

รอบก่อนรองฯ : ชนะดวลจุดโทษ โปรตุเกส 5-3 (เสมอ 0-0 ใน 120 นาที)

ดาวซัลโวของทีม : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (1 ประตู)

ผลงานดีสุดใน ยูโร : แชมป์ 2 สมัย (ปี 1984 และ 2000)

มาถึงรอบนี้โดยที่ยังทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ไม่ได้เลย!!! โดยทำได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น จาก 5 เกม ซึ่งก็มาจากหนึ่งลูกจุดโทษ และสองการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง แต่ก็ต้องยกเครดิตให้เกมรับที่แข็งแกร่งสุดๆ โดยเพิ่งเสียแค่ลูกเดียว แถมเป็นลูกโทษด้วย ฟอร์มไม่หรู แต่มาไกล นี่แหละคือความของกลัวของทัพ "ตราไก่" ยุคกุนซือ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ 

-------

- อังกฤษ


ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่ม ซี): ชนะ เซอร์เบีย 1-0, เสมอ เดนมาร์ก 1-1, เสมอ สโลวีเนีย 0-0

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ สโลวาเกีย 2-1 (ต่อเวลาพิเศษ)

รอบก่อนรองฯ : ชนะดวลจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ 5-3 (เสมอ 1-1 ใน 120 นาที)

ดาวซัลโวของทีม : แฮร์รี่ เคน และ จู๊ด เบลลิงแฮม (2 ประตู)

ผลงานดีสุดใน ยูโร : รองแชมป์ 1 ครั้ง (ปี 2020)

ฟอร์มการเล่นอาจไม่โดดเด่นโดนใจแฟนบอล รวมถึงเหล่ากูรู แต่ด้วยความยอดเยี่ยมและความใจสู้ของเหล่านักเตะ ทำให้รองแชมป์เก่าที่นำทัพโดยกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาถึงรอบรองฯ ได้อีกครั้ง และแน่นอนว่า หนนี้ "สิงโตคำราม" มุ่งมั่นอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกให้ได้  

-------

- เนเธอร์แลนด์


ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม (อันดับสามกลุ่ม ดี): ชนะ โปแลนด์ 2-1, เสมอ ฝรั่งเศส 0-0, แพ้ ออสเตรีย 2-3 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ โรมาเนีย 3-0

รอบก่อนรองฯ : ชนะ ตุรกี 2-1

ดาวซัลโวของทีม : โกดี้ คักโป (3 ประตู) 

ผลงานดีสุดใน ยูโร : แชมป์ 1 สมัย (ปี 1988)

ถึงแม้ผ่านจากรอบแบ่งกลุ่มไม่ค่อยสวย ในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีสุด แต่ "อัศวินสีส้ม" ของกุนซือ โรนัลด์ คูมัน เป็นเพียงทีมเดียวในสี่ทีมรอบตัดเชือก ที่ผ่านรอบ 16 ทีม และ รอบ 8 ทีม ด้วยชัยชนะที่ไม่ต้องพึ่งการต่อเวลาพิเศษ หรือ ดวลจุดโทษ โดย เนเธอร์แลนด์ ชุดนี้ แม้เสียประตูเยอะไปหน่อย (5 ลูก) แต่ก็ทดแทนด้วยความยอดเยี่ยมเรื่องเกมรุก (ยิง 9 ประตู ซึ่งเป็นรองแค่ เยอรมนี กับ สเปน) นำโดย โกดี้ คักโป สตาร์จาก ลิเวอร์พูล ที่ทัวร์นาเมนต์นี้กดไปแล้ว 3 ประตู กับ 1 แอสซิสต์

-------

ประกบคู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมวันและเวลาการแข่งขัน

- คืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567, เวลา 02.00 น : สเปน พบ ฝรั่งเศส 

- คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567, เวลา 02.00 น. : เนเธอร์แลนด์ พบ อังกฤษ 

Subinho


ที่มาของภาพ : ฟุตบอลต่างประเทศ
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport