ยุคตกต่ำของกองหน้าเบอร์9

ผมเองยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องในสนามถึงแนวโน้มที่จริงๆแล้วก็คิดมาสักพักแล้ว บางคนก็น่าจะรู้สึกอย่างเดียวกันว่าเกมลูกหนังยุคนี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิม การทำประตูไม่ได้ขึ้นอยู่กับกองหน้าตัวเป้าของทีมอีกแล้ว บางทีมก็ยังมักใช้ตัวรุกที่เล่นได้ไปยืนตามศัพท์ยอดฮิต 'false nine'    

ก่อนหน้ารอบ 8 ทีมจะเริ่มขึ้นมีการทำประตูไปแล้วทั้งหมด 100 ประตูซึ่งไม่ถือว่ามากแต่ก็ไม่ถือว่าน้อย ก็คาดว่าจะแซงยูโร2016 ที่ยิงกันไปรวม 108 ลูก แน่นอน (แต่ก็คงไม่ทัน142ลูกตอนยูโร2021)    

เจาะลึกลงไปมีแค่ 45% ในนั้นเท่านั้นที่มาจากกองหน้า ก็อธิบายว่าสถิติดังกล่าวนั้นมีการวมเอาผู้เล่นแนวรุกริมเส้นเข้าไปด้วย เหมารวมไปว่าเป็นForwards    

นี่ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบห้าทัวร์นาเมนต์หลัง     

ยกตัวอย่าง โคดี้ กัคโป ซัดไปแล้ว 3 ลูก ได้คั่วดาวซัลโวแต่เขาเองก็เป็นตัวริมเส้นให้เนเธอร์แลนด์ส ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าหมายเลข 9    

ยูโรคราวนี้เหมือนกำลังตอกย้ำว่าฟุตบอลยุคปัจจุบันมันได้หันเหไปอีกทิศทางแล้ว จะตามวิวัฒนาการหรือต้องโทษ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ได้เพราะเขาถือเป็นคนที่เคยทำทีมประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องมีหัวหอกอาชีพเป็นตัวหลัก    

แฮร์รี่ เคน ถึงมีสกอร์ไปแล้ว 2 ลูกแต่ก็ยังถือว่าโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน ใครๆก็คาดหวังมากกว่านี้จากกัปตันทีมชาติอังกฤษ    

โรเมลู ลูกากู ของเบลเยี่ยม ลากกระเป๋ากลับบ้านไปเรียบร้อย โดยไม่มีแม้แต่ลูกเดียวกับโอกาสนับครั้งไม่ถ้วน    

ทีมชาติสเปนเองก็ตามที่ได้รับคำชมหนาหูก็อาศัยตัวรุกด้านข้างที่มีเทคนิคสูงเข้าทำทั้ง ลามีน ยามาล กับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์     

แน่นอนว่ายุคนี้ให้นึกถึงกองหน้าเบอร์ 9 ก็ต้องนึกถึง เอร์ลิ่ง ฮาลันด์ เป็นอันดับแรก เพียงแต่นอร์เวย์ไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายโดยก็ไม่รู้ด้วยว่าจะทำได้ในทัวร์นาเมนต์ไหน ขณะเดียวกันมันก็ถือเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นกับเทรนด์ของเกมลูกหนังที่เปลี่ยนไป

มันน่าใจหายที่ต้องเห็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั่งข้างสนามให้โปแลนด์ ก็ด้วยอายุ 35 แล้วที่เข้าสู่ช่วงโรยรา นี่ถือเป็นแบบฉบับของคำว่า Striker ขนานแท้ มันจึงต้องให้ตั้งคำถามว่าจากนี้ไปจะมีประเภท เลวานดอฟสกี้ โผล่ขึ้นมาอีกกี่คนกัน    

อย่างเคนตอนนี้ก็ขึ้นเลขสามไปแล้วเช่นกัน ลูกากู หรือ อัลบาโร่ โมราต้า ของสเปน    

เรื่องทำนองนี้มันไม่ได้อยู่แค่ว่าเด็กที่เติบโตมาอยากจะเป็นกองหน้าเบอร์ 9 กันเยอะแค่ไหน ทุกคนล้วนมีฮีโร่หรือไอดอลของตัวเองครับ หากมันอยู่ที่ระบบการฝึกสอน การซ้อมและการผลิตของอะคาเดมี่ย์แต่ละสโมสรว่าต้องการให้เมล็ดพันธุ์ของตัวเองงอกงามออกมาเป็นยังไง    

ในเมื่อฟุตบอลตอนนี้เน้นการพาสซิ่งบนพื้น หลายทีมเซตจากหลังขึ้นไปพร้อมเจาะตามช่องเข้าทำ มันเลยไม่จำเป็นก็ได้ต้องมีกองหน้าตัวเป้า ดูอย่างบทบาทที่ ไค ฮาเวิร์ตซ รับกับทีมชาติเยอรมันก็ได้  ในขณะที่เพื่อนร่วมทีม นิคลาส ฟูลครุก นี่แหละที่เป็นหมายเลข9โดยธรรมชาติเลย ถนัดลูกกลางอากาศและมีสัญชาติญาณในกรอบเขตโทษ     

แต่ก็เป็นได้แค่ตัวสำรองเนื่องจากแท็กติกของจูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ต้องการอย่างนั้น    

กระนั้นก็ตามผมก็ไม่คิดว่าพอมันตกแล้วจะหายไปเลย ทุกอย่างมีวัฐจักรของตัวเอง เมื่อถึงเวลาหวังว่าเราจะได้พบกองหน้าเบอร์9เดินชนกันเต็มไปหมดอีกครั้ง     

เหมือนครั้งหนึ่งที่เราได้เห็น'เหยินทองคำ 'โรนัลโด้, กาเบรียล บาติสตูต้า, อลัน เชียเรอร์, ดาวอร์ ซูเคอร์ หรือว่ าคริสเตียน วิเอรี่ ในเวทีเดียวกันมาแล้ว

"ไก่ป่า"......