ปรับเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ! อลัน เชียเรอร์ เลือก 11 ตัวจริง อังกฤษ พบ สวิส รอบ 8 ทีม ศึกยูโร 2024

แน่นอนว่ามีหลายคนจับตามอง นายใหญ่ทัพ "สิงโตคำราม" จะกล้าดร็อปผู้เล่นบางคนในเกมนี้หรือไม่ โดยเฉพาะแนวรุกที่ตอนนี้ตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนักก็คือ ฟิล โฟเด้น และ บูกาโย่ ซาก้า

ขณะที่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กก็น่าสนใจอย่างยิ่งว่า เซาธ์เกต จะเลือกใช้งานใคร ระหว่าง โจ โกเมซ กับ เอซรี่ คอนซ่า เนื่องจาก มาร์ก เกฮี หมดสิทธิ์ลงเล่นเพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง 

ในส่วนของแบ็กซ้ายแม้ว่า ลุค ชอว์ จะกลับมาซ้อมกับกลุ่มทีมได้แล้ว แต่ก็คือยากที่จะฟิตสมบูรณ์ลงสนามในเกมปะทะทัพแดนนาฬิกา ขณะที่ คีแรน ทริปเปียร์ ยังต้องลุ้นว่าฟิตเต็มร้อยหรือไม่ หลังมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมชนะ สโลวาเกีย 

สำหรับมุมมองของบรรดาเกจิลูกหนังหลายคนพยายามวิเคราะห์ และให้คำแนะนำ เซาธ์เกต ในการเลือก 11 ตัวจริงในแมตช์สำคัญนี้ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่ให้ทัศนะน่าสนใจเหลือเกินเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

อดีตหัวหอกเจ้าของฉายา "ฮอตชอต" ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 260 ประตูจากการลงเล่น 441 แมตช์ มองว่า อังกฤษ ควรจะมีการปรับทัพพื่อให้เกมของพวกเขามีความเสถียรและไหลลื่นมากขึ้นกว่าเดิม

11 ผู้เล่นตัวจริงของ อลัน เชียเรอร์ ระบบ 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

ไม่มีอะไรที่ต้องตำหนิสำหรับนายทวารจากค่าย "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เพราะตั้งแต่รอบแรกจนถึงตอนนี้เขาไม่ได้ทำผลงานผิดพลาดอะไรเลย และยังคงเป็นผู้รักษาประตูที่ไว้วางใจได้เสมอ ฉะนั้นถ้าหากไม่เกิดอาเพศจนทำให้ พิคฟอร์ด หมดสิทธิ์ลงสนาม ยังไงซะ เซาธ์เกต ก็ต้องเลือกเขาทำหน้าที่ลงยืนเฝ้าเสาในเกมสำคัญวันเสาร์นี้แน่นอน 

กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอซรี่ คอนซ่า, คีแรน ทริปเปียร์

นี่คือตำแหน่งแรกที่ อังกฤษ จำเป็นต้องปรับ เพราะ เกฮี ติดโทษแบน และสำหรับ เชียเรอร์ มองว่า คอนซ่า เหมาะอย่างที่จะลงมารับบทบาทกองหลังตัวกลางคู่ สโตนส์ โดยนักเตะได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในตำแหน่งแบ็กขวาเกมปะทะกับแข้งสโลวัก ซึ่งเป็นตำแหน่งถนัดของเขา แต่การยืนเซนเตอร์แบ็กฝั่งขวาก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรมากนักสำหรับ แนวรับจากแอสตัน วิลล่า ส่วนแบ็กซ้ายแม้ ทริปเปียร์ ยังมีปัญหาเรื่องบาดเจ็บแต่ถ้าหากนักเตะฟิตทันเกมนี้ก็เหมาะสมที่จะได้ทำหน้าที่ต่อไป แม้จะเสียงวิจารณ์ว่าเขาทำผลงานไม่ค่อยดีนับตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์นี้ก็ตาม สำหรับแบ็กขวาก็คงหนีไม่พ้น วอล์คเกอร์ เพราะมีความแน่นอนทั้งเกมรับและเกมรุก ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจเป็นออปชั่นในกรณีที่ทีมต้องการเพิ่มมิติในการวางบอลยาวแม่นๆ จากเขา

กองกลาง : เดแคลน ไรซ์, ค็อบบี้ เมนู

สำหรับแท็กติกที่ เชียเรอร์ เลือกใช้ก็คือการมีผู้เล่นแดนกลาง 2 คน และแน่นอนว่าต้องเป็น ไรซ์ กับ เมนู เท่านั้น เพราะทั้งสองคนเล่นกันได้อย่างเข้าขา โดยเฉพาะในเกมกับ สโลวาเกีย แข้งดาวรุ่งจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ มีทั้งความกล้าและวิสัยทัศน์ในการเล่น ยิ่งจับคู่กับ ไรซ์ ทำให้แดนกลางของ อังกฤษ มีมิติมากขึ้น ขณะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นมากนักนอกจากความขยัน 

แนวรุก : โคล พาลเมอร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, แอนโธนี่ กอร์ดอน

ต้องบอกเลยว่า เชียเรอร์ มองขาดมากๆ สำหรับตำแหน่งนี้เพราะ "ทรี ไลอ้อนส์" จำเป็นอย่างยิ่งต้องกล้าเสี่ยงที่จะเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ฟิล โฟเด้น กับ บูกาโย่ ซาก้า ไม่สามารถผลิตฟอร์มเก่งออกมาได้เหมือนตอนเล่นให้กับต้นสังกัด แน่นอนว่า เบลลิงแฮม ยังคงเป็นผู้เล่นที่ อังกฤษ ขาดไม่ได้ ความมหัศจรรย์ของ สตาร์เรอัล มาดริด เป็นสิ่งจำเป็นที่พวกเขาต้องพึ่งพา และนักเตะก็แสดงออกมาให้เห็นแล้วในเกมกับ สโลวาเกีย ขณะเดียวกับ พาลเมอร์ คงทำให้ เซาธ์เกต ตาสว่างซะทีว่าแข้งรายนี้ทำให้เกมรุกทางฝั่งขวาของ อังกฤษ อันตรายมากกว่า ซาก้า ส่วน กอร์ดอน ซึ่งได้ลงเล่นแค่นาทีเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ ควรจะได้รับโอกาสมากกว่านี้ และศักยภาพของนักเตะจะทำให้ทีมมีมิติในแนวรุกฝั่งซ้าย มากกว่า โฟเด้น ที่ตอนนี้ดูเหมือนฟอร์มจะตันเหลือเกิน 

หน้าเป้า : แฮร์รี่ เคน

นี่คือกองหน้าที่ เชียเรอร์ ยังคงเชื่อมั่นเสมอว่าจะทำให้ อังกฤษ ไปได้ไกล ถ้าหากเขาอยู่ในฟอร์มที่สุดยอด แม้ในศึกยูโรบนแผ่นดินไส้กรอกนักเตะยังไม่สามารถงัดฟอร์มโหดเหมือนตอนเล่นให้ สเปอร์ส และ บาเยิร์น มิวนิค แต่เรื่องการจบสกอร์ที่เฉียบคม และความเป็นผู้นำในฐานะกัปตันทีม เคนจะเป็นที่พึ่งในยามยากได้เสมอ และอาจจะเป็นคนที่ชี้ชะตาในแมตช์นี้ เหมือนที่เขาทำได้ในเกมเฉือน สโลวาเกีย รอบ 16 ทีมสุดท้าย 

ทอมเม้ง