ของดีที่ชื่อตุรกี

ตีแผ่สถิติออกมาได้ดังนี้

ครองบอล ออสเตรีย 60% ตุรกี 40%    

โอกาส ออสเตรีย 21 ครั้ง ตุรกี 6 ครั้ง    

ค่า xG ออสเตรีย 3.19 ตุรกี 1.36    

สองประตูที่ตุรกีทำได้ก็มาจากลูกเตะมุมทั้งสองลูกโดยคล้ายกันมากเปิดเข้าไปหน้าประตูและเป็น เมริห์ เดมิรัล ปราการหล้งวัย 26 จัดการปิดจ็อบ ในทางตรงกันข้ามที่ ออสเตรีย พยายามแล้วพยายามอีก ทางรังนิกเองก็แก้เกมอยู่ตลอด ตอนพักครึ่งก็เปลี่ยนทีเดียวสองคนปรับหมากจาก 4-2-3-1เป็น 4-3-3 ซึ่งก็ทำให้เกมดูไหลลื่นขึ้นทันตา

  ดีใจด้วยนะจ๊ะสาวๆ

ตอนทดเวลาบาดเจ็บก็เกือบตีเสมอได้ด้วยโดยลูกโหม่งกดลงจาก คริสตอฟ เบาม์การ์ตเนอร์ กำลังพุ่งเสียบตาข่ายอยู่แล้วแต่เจอซูเปอร์เซฟที่สามารถเป็น Save of Tournament ได้เลยของ เมิร์ต กูน็อค ปัดออกข้างอย่างเหลือเชื่อ    

เอาว่าใครที่ชอบตัวเลขก็อยากบอกว่าค่า xG จังหวะนั้นในนาที 90+4 อยู่ถึง 0.94 โดยก็เรียกได้ว่าแทบจะแบเบอร์ต้องได้    

ราวสี่เดือนก่อนนี้เองที่ตุรกีแพ้เละให้ทีมเดียวกันนี้ 1-6 แต่นั่นคืออดีต วันนี้พวกเขาล้างแค้นได้สำเร็จแถมเป็นการทบต้นทบดอกด้วยเพราะมันเดิมพันด้วยตั๋วรอบแปดทีมยูโร     

หลังเกม รังนิก ให้สัมภาษณ์บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วให้ทีมตีเสมอได้ เขาได้ทำทุกอย่างเท่าที่ควรจะทำแล้ว ทีมที่ได้รับการมองว่าอาจเป็นม้ามืดต้องตกรอบโดยไม่น่าเชื่อเช่นกันว่า ออสเตรีย ไม่เคยชนะในรอบน็อกเอาต์บอลทัวร์นาเมนต์มาตั้งแต่เวิล์ด คัพปี1954    

หลายอย่างควรเทมาทางพวกเขาด้วย อย่างเช่นเตะในสนามที่รังนิกเคยทำงานมาถึง 6 ปี ขณะเดียวกันยังมีผู้เล่นบางคนด้วยที่ค้าแข้งให้ไลป์ซิกไม่ว่าจะ เบาม์การ์ตเนอร์ หรือว่า นิโกลัส เซวัลด์ 

อย่างไรก็ตามต้องชม วินเชนโซ่ มอนเตลล่า กุนซือชาวอิตาเลี่ยนของตุรกีที่แก้ทางมาดี เขาศึกษาแท็กติกของ รังนิก มาอย่างละเอียดว่าชอบใช้การเพรสสูงเพื่อแย่งบอลดังนั้นวิธีการที่ใช้ก็ต้องเตะบอลยาวเพื่อเลี่ยงการเสียบอล 

บรรยากาศตอนจบเกมยอมรับว่าขนลุกไปหมด แฟนตุรกีร้องเพลงฉลองกันดังมาก

คำนวนระยะทางเฉลี่ยที่กูน็อคเตะให้เพื่อนจึงได้ 34 หลาจากเขตตัวเอง

แต่ก็ใช่ว่าจะงัดลูกโด่งท่าเดียว พอ ออสเตรีย ถอยมาเตรียมป้องกันลูกยาวก็จะพบการต่อบอลบนพื้นแทนของ ตุรกี พวกเขามีตัวคล่องและเร็วนำโดย อาร์ด้า กูเลอร์ เด็กวัย 19 ที่บ่อยหนทำให้ผู้เล่นจากฝั่ง ออสเตรีย ต้องเข้ามารุมจนเปิดพื้นที่ว่างด้านหลัง

อีกจุดที่สำคัญอยู่ตรงกำลังใจ ข้อนี้ ตุรกี ได้เปรียบทุกชาติยกเว้นก็คงแค่ชาติเจ้าภาพ

ผมมีโอกาสดูพวกเขาตั้งแต่เกมแรกกับ จอร์เจีย ที่ดอร์ทมุนด์แล้ว มันเหมือนเตะที่อิสตันบูลโดยบรรยากาศที่สัมผัสก็ไม่ต่างเลจากวันชาติของชาวเติร์ก พวกเขามากันหลายหมื่นจากทั่วทั้งเยอรมัน(คนตุรกีอาศัยในเยอรมันหลัก3ล้านคนได้) อย่างเดียวกันกับเกมรอบ16ที่ยกโขยงกันมาที่ไลป์ซิก

นักเตะทุกคนจึงใส่กันลืมตาย

จากทุกทีมที่ผ่านเข้า 8 ทีมก็ถือว่า ตุรกี อ่อนที่สุด รอบต่อไปก็ต้องเจองานหนักอย่างเนเธอร์แลนด์อีกด้วยแต่ถามว่ามันจะเป็นเกมที่ง่ายของขุนพลดัตช์แมนหรือเปล่า?

ไม่มีทางแน่นอน

ตุรกีเป็นทีมใช้ใจนำมารวมถึงมีทีเด็ดที่ลูกเซตพีซ

แต่ก่อนจะถึงวันนั้นก็เชื่อว่าคงมีหลายคนขอฉลองให้สุดเหวี่ยงกันก่อน ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก มันเป็นเพียงครั้งที่สามในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ทะลุถึงรอบแปดทีมยูโร

เสียงชนแก้วเปิดงานเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น                  

"ไก่ป่า"......