ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติ ฝรั่งเศส เปิดปากชี้ทีมตราไก่สมควรได้ผ่านเข้ารอบแปดทีมของศึก ยูโร 2024 เนื่องจากเล่นเกมรุกเป็นหลักแม้จะเฉือนชนะ เบลเยี่ยม ได้แบบหวุดหวิด 1-0 ในช่วงห้านาทีสุดท้ายของการฟาดแข้งรอบ 16 ทีมเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ก.ค.
ฝรั่งเศส หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ต้องรอเวลาจนถึงนาทีที่ 85 ก่อนเขี่ย เบลเยี่ยม ร่วงตกรอบโดย ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงไปแทน มาร์กกุส ตูราม ช่วงกลางครึ่งหลังรับบอลจาก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แล้วง้างยิงแฉลบ ยาน แฟร์ทองเก้น ตุงตาข่ายโดย ยูฟ่า ระบุว่ากองหลังทีม ปีศาจแดงแห่งยุโรป สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง
หลังจากเกมจบลง เดส์ชองส์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "เราเล่นเกมรุก และชัดเจนว่าคู่แข่งของเราเล่นอย่างระมัดระวังแม้พวกเขาจะมีนักเตะตัวรุกหลายรายในทีม เราทำทุกอย่างแล้วทั้งการสร้างโอกาสซึ่งเราทำได้มากกว่าพวกเขา แต่เราไม่อาจเอาชนะเกมรับของพวกเขาได้"
"แน่นอนว่าคุณไม่อาจผ่านเข้ารอบได้เพียงแค่การครองบอลได้มากกว่าเท่านั้น ผมชอบมากที่เราสร้างโอกาสได้อย่างมากมาย"
"แม้ผู้คนจะคาดหวังว่าเราจะเข้ารอบแปดทีมได้ แต่เราเล่นกันไม่ลงล็อกเท่าที่ควร เราเข้ารอบแปดทีมแล้ว และมันเป็นเรื่องที่สำคัญ"
สำหรับการตัดสินให้ ยาน แฟร์ทองเก้น สกัดบอลเข้าประตูตัวเองของ ยูฟ่า นั้น เดส์ชองส์ เอ่ยว่า "มันเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง มันเป็นบอลแฉลบ แต่มันเกิดขึ้นเพราะมีคนง้างยิง และมันเข้าประตู"
"เรามีศักยภาพในการทำประตูเสมอ แต่มันแปลกนับตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ที่เราไม่ได้ประตูจากโอเพ่นเพลย์ เรามีโอกาสเสมอ"
นายใหญ่ เลส์ เบลอส์ เอ่ยถึง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ยังต้องสวมหน้ากากลงสนามว่า "เขาเริ่มชินแล้ว เขาดีขึ้นมากแล้ว และเรารู้ว่าเหงื่อสามารถเข้าตาเขาได้"
"เขาเริ่มคุ้นแล้ว แต่มันสามารถส่งผลกระทบถึงการมองได้ เขาบอกว่ามันเหมือนการเห็นภาพเป็นสามมิติ แต่เขาต้องทำความเคยชินกับมันต่อไปในเดือนนี้"