ความภูมิใจของจอร์เจีย

คือคัดเลือกมาก็ว่ายากแล้ว

เข้ารอบสุดท้ายครั้งแรก....ต่อด้วยรอบน็อคเอาต์ทันทียากยิ่งกว่า

ไม่แปลกที่คนจอร์เจียโดยเฉพาะในเมืองหลวง ทบิลิซี ออกมากระโดดโลดเต้นตามท้องถนนอย่างมีความสุข

กีฬาสร้างความสุขให้กับผู้คนในสังคมได้ เช่นเดียวกันกับการนำความทุกข์มาให้หากคุณแพ้ในการแข่งขัน

ขึ้นกับว่าใครจะยอมรับมันได้ดีกว่ากัน

โอเค....ชั่วโมงนี้เรามองในแง่ความสุขของคนจอร์เจียดีกว่า 

ขนาดเราได้แชมป์อาเซียน คัพ เรายังแห่ถ้วยกันเลย ยิ่งผู้คนในโลกแห่งมาตรฐานฟุตบอลสูงส่งอย่างทวีปยุโรป การเข้ารอบน็อคเอาต์ยูโร มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆกับทีมแรงกิ้งอันดับต่ำกว่า 50 

ทีมของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แชมป์พรีเมียร์ลีก ยังไม่ผ่านรอบคัดเลือกเลย....

เส้นทางสู่เยอรมนีของพวกเขานั้นอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับนอรเวย์, สกอตแลนด์,สเปน,ไซปรัส โดยชัยชนะสองนัดจาก 8 เดาไม่ยากว่าชนะทีมไหน ที่สำคัญทีมที่เข้ารอบแบบหล่อๆอย่างสกอตแลนด์ตกรอบแรกยูโรไปแล้ว ขณะที่พวกเขานั้นผ่านการคัดเลือกในเส้นทางสายอุ่นเครื่องแบบยุโรปคือ ยูฟา เนชั่นส์ ลีก ที่กำหนดเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะเป็นหนึ่งในเส้นทางมายังรอบสุดท้ายรายการเมเจอร์ของโลก

ยูฟา ต้องการพัฒนาฟุตบอลให้ทั่วถึงในยุโรป ทางเดียวที่จะยกระดับทีมชาติของพวกเขา สร้างนักเตะป้อนวงการทั้งทวีปคือ "การแข่งขัน"

ลองนึกภาพดูว่าเมื่อก่อนยูโรมี 8 ทีมในรอบสุดท้าย อย่าว่าแต่จอร์เจียเลย อังกฤษเองยังไม่ผ่านรอบคัดเลือกก็มี (ปี1984)

จาก8 เป็น 16 (ปี1996) มาถึง24 เรียกว่าครึ่งทวีปยุโรป ชาติระดับเกรดซีของทวีป จึงมีโอกาสได้ร่วมแข่งขันกับชาติใหญ่

ถ้ามองมุมลบพวกเขาคือ "ไม้ประดับ" แต่ยุโรปมองเรื่อง "พัฒนา" และการพัฒนากีฬาให้ก้าวหน้ามันคือ "สร้างทัวร์นาเม้นต์" มี "การแข่งขัน" เพื่อให้ชาติเล็กๆในโลกลูกหนังอย่างจอร์เจียได้มีโอกาสปะทะเรียนรู้การเตะกับชาติใหญ่ที่เก่งเรื่องฟุตบอลมากกว่า

เป้าหมายหลักมันอยู่ตรงนี้.....

จอร์เจียคือหนึ่งในเส้นทางการพัฒนาของยูฟา และวันนี้พวกเขาเข้ารอบน็อคเอาต์มาเจอกับสเปนที่พวกเขาโดนล่อเป้าในรอบคัดเลือกสองนัด 13 ลูก (1-7,6-0) อัลบาโร โมราต้า "แฮทริก" ยามาล, วิลเลียมส์ ช่วยกันยิง

ถามว่าไหวมั้ย...เที่ยวนี้ 

เชื่อว่าทุกคนมีคำตอบในใจ....แต่ก็ไม่ง่ายแน่นอนสำหรับสเปน ในเมื่อจอร์เจียใช้แทกติก รับแน่นแล้วสวนกลับเร็ว ลงโทษโปรตุเกสได้แล้ว ความมั่นใจมีแน่ๆ 

ในการเดินทางไกลของจอร์เจียในยูโร 2024 เที่ยวนี้ นอกจากนักเตะทั้งทีมแล้วความดีความชอบทั้งหมดนี้ต้องยกให้ วิลลี ซาญอล อดีตแชมป์บุนเดสลีกาและเจ้ายุโรปของบาเยิร์น มิวนิค รวมทั้งแบ๊กขวาทีมชาติฝรั่งเศสชุดรองแชมป์โลก2006 ผู้ได้รับประสบการณ์โค้ชจากการเป็นผู้ช่วย คาร์โล อันเชลอตติ ในทีมเสือใต้ (รักษาการหนึ่งนัด) 

เขาเริ่มต้นเส้นทางกับจอร์เจียเมื่อต้นปี 2021 ในการพาทีมคัดเลือกยูโร 2024 ซึ่งเขาทำได้ผ่านเส้นทางเนชั่นส์ ลีก ชนะลักเซมเบิร์ก ก่อนชิงตั๋วด้วยการชนะจุดโทษกรีส  เข้ารอบสุดท้ายมาได้อย่างน่าดีใจ

ว่ากันว่าคืนนั้น (26 มี.ค.2024) ประมาณตีสอง ผู้คนในทบิลิซี ออกมาแสดงความดีใจในการไปยูโรของพวกเขา พร้อมชุดนักเตะที่พึ่งชนะจุดโทษกรีส ก็มาร่วมงานปาร์ตี้บนท้องถนนกับคนจอร์เจีย

ควิชา ควารัตส์เคเลีย หรือ "มาราโดนาจอร์เจีย" บอกว่า "มันคือวันที่ดีสุดในชีวิตของคนจอร์เจีย"

สูตรสำเร็จของ ซาญอล โค้ชใหญ่คืออะไรจึงพาจอร์เจียมาไกลขนาดนี้

แน่นอนหลายคนคงมองภาพกว้างๆว่า "ทีมเล็ก" เน้นบอลโต้กลับ นั่นก็คือภาพกว้าง แต่รายละเอียด มันมีที่มาที่ไป

ถ้าสังเกตที่ม้านั่งสำรองจอร์เจียจะเห็นชายหนุ่มที่หน้าตาคล้ายคนอังกฤษ เขาคือ เดวิด เวบบ์ ผู้ช่วยของ ซาญอล ที่ถูกดึงมาทำงานหลังจากการเริ่มต้นคัดเลือกไม่เป็นใจ

เวบบ์ คุมทีมยอร์ค ซิตี ที่ตอนนี้ตกชั้นจากลีกอาชีพไปยัง กึ่งอาชีพกึ่งสมัครเล่น (ด.5) หรือ เนชั่นส์ ลีก ของอังกฤษ เขามีประสบการณ์งานแมวมองนักเตะเยาวชน คุมทีมเยาวชนคริสตัล พาเลส ตอนอายุ 22 ปี รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการสโมสรชั้นนำอย่าง สเปอร์สและบอร์นมัธ มาแล้ว นอกจากนี้เขายังเดินงานแมวมองนักเตะเยาวชนในฝรั่งเศสซึ่งที่นั่นเองทีเขารู้จักกับ ซาญอล มาก่อนแล้ว 

เวบบ์ บอกว่า "แนวคิดของผมตรงกับ วิลลี เราคุยปรัชญาฟุตบอลเดียวกัน ในการพัฒนานักเตะ"

นอกจากงานในระดับเยาวชนแล้วเขายังเรียนจบปริญญาโท ด้านจิตวิทยาการกีฬาอีกด้วย องค์ความรู้ระดับ ป.โท ของเขานำมาใช้กับนักเตะจอร์เจียแบบรายบุคคล และรายกลุ่มด้วย

"สำคัญเลยนะครับ เราต้องเรียนรู้การทำงานกับผู้คน ก่อนที่จะลงรายละเอียดในฟุตบอล คุณต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนก่อน"

เวบบ์ ทำงานกับ ซาญอล พ.ย. 2023 หน้าที่หลักช่วงนั้นคือติดตามผลงานของนักเตะจอร์เจียทั่วยุโรป และเชิงจิตวิทยาคือการทำความเข้าใจกับนักเตะจอร์เจีย เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกเมื่อเจอเกมใหญ่ หรือรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปในการลงสนาม ทำให้นักเตะนิ่งพอที่จะรับมือกับความกดดัน

นัดยิงจุดโทษกับกรีซ เป็นผลที่ยอดเยี่ยมนักเตะจอร์เจียยิงเข้า 4 คน (คนที่พลาดคือ มิเคาทัดเซ ยิงออก) ส่วน มามาร์ดาชวิลลี นายประตูจอมหนึบ เซฟ 1 ลูก.....

"เชิงจิตวิทยา มันสำคัญมากสำหรับการยิงจุดโทษ นักเตะจอร์เจีย ที่ประสบการณ์น้อยกว่ากรีส รับมือได้ ผมซื้อไอเดียที่มอง แคแรกเตอร์, สภาพแวดล้อมในแบบพวกพ้องน้องพี่ของเรา"

"บางครั้งอารมณ์จะเข้ามาคลอบงำนักเตะมากเกินไป ต้องทำให้พวกเขานิ่งไม่วอกแว่กกับสิ่งเร้า" 

เวบบ์ บอกว่าเป้าหมายก่อนไปยูโร ครั้งนี้เพื่อเข้ารอบ 

"เราไม่ได้ไปในฐานะนักท่องเที่ยว เราต้องการจบที่สองหรืออันดับสามดีสุดของกลุ่มที่มีโปรตุเกสตัวเต็งร่วมสาย"

แน่นอน....พวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตลอดสามนัด ขนาดวันแพ้ตุรกี ทุกคนยังชมจอร์เจีย ว่าเล่นดี ก่อนมาล้มโปรตุเกสชุดสองอย่างพลิกลอคชอคโลกแล้วผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ครั้งประวัติศาสตร์

แน่นอน...จอร์เจีย ไม่ได้มีแค่ "ควาราโดนา" พวกเขายังมีดาวยิงจากทีมเมตส์ มิเคาทัดเซ ที่กดทีมชาติไทยเราเมื่อ ต.ค. ปีก่อน 4 ลูก จากชัยชนะ 8-0 นายประตูจอมหนึบ มามาร์ดาชวิลลี และกัปตัน คาเชีย วัย36 ปี ที่ ซาญอลและ เวบบ์ มองว่าสำคัญต่อทีมอย่างยิ่ง มิดฟิลด์ โคชอราชวิลลี รวมทั้งกลางด้านขวา ชัคเวตัดเซ จากวัตฟอร์ด ที่ช่วยกันเล่นเกมให้รัดกุมมากพอในแดนสองเพื่อบีบให้คู่แข่งพลาดเสียบอล

การผ่านเข้ารอบ16 ทีมสุดท้ายแล้วต้องไปเจอกับทีมที่ฟอร์มดีระดับแชมป์ยูโร 3 สมัยยังสเปน พวกเขาถูกกาชื่อให้ตกรอบไปแล้ว

เชื่อว่าแรงกดดันอันนี้ไม่ได้ส่งถึงตัวนักเตะจอร์เจียสักเท่าไหร่นัก ด้วยเพราะพวกเขาถือว่าการมายูโรเที่ยวแรกในประวัติศาสตร์ นั้น...

ได้กำไรเรียบร้อยแล้ว

JACKIE

ข้อมูลบางส่วนจากบีบีซี