ไม่ได้พลิกโผอะไรที่ทีมชาติ อังกฤษ เข้ารอบน็อกเอาต์ของศึก ยูโร 2024 ในฐานะแชมป์กลุ่มซีแม้จะมีฟอร์มที่ขี้เหร่ตลอดสามเกมของรอบแบ่งกลุ่ม
จากการคุมทีมออกศึกสองเกมแรก แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ ใช้งานไลน์อัพชุดเดิม และโดนเฉ่งปี๋ก่อนที่เขาจะยอมปรับโผนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างไรก็ดี กุนซือวัย 53 ปีเปลี่ยนทีม 11 คนแรกแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้นให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์แทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แต่ สิงโตคำราม ยังมีผลงานไม่เอาอ่าวอยู่นั่นเอง
ถึงกระนั้น หลังทะยานเข้ารอบน็อกเอาต์ไปรอบู๊กับ สโลวาเกีย ทีมชาติ อังกฤษ ที่เคยหล่นมารั้งอันดับเต็งสามได้รับการอุ้มชูคืนสู่ตำแหน่งเต็งจ๋าอีกหนเนื่องจากเส้นทางของพวกเขาประดุจถุกโรยด้วยกลีบกุหลาบ และส่อแววผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ไม่ยากเนื่องจากสามารถเลี่ยงทีม เสือ สิงห์ กระทิง แรด ได้โดยตลอด
จะอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในเกมรอบ 16 ทีม เซาธ์เกต จะมีการโรเตชั่นทีมมากกว่าหนึ่งตำแหน่งเนื่องจากตัวสำรองในแมตช์เสมอกับ สโลวีเนีย ทั้ง ค็อบบี้ เมนู , โคล พาลเมอร์ และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ล้วนสร้างความแฮปปี้ให้กับสาวก ทรี ไลอ้อนส์ ได้
ด้วยเหตุนี้ เราจึงสมควรอ่านใจ เซาธ์เกต กันสักหน่อยว่านักเตะ 11 คนแรกรายไหนที่มีแววเสียตำแหน่งมากที่สุดในเกมบู๊กับ สโลวาเกีย
11. จอร์แดน พิคฟอร์ด
นายทวารทีม เอฟเวอร์ตัน คือประตูมือหนึ่งของ เซาธ์เกต ชนิดที่ไม่มีมือกาวหน้าไหนสามารถแย่งตำแหน่งไปจากสตาร์วัย 30 ปีได้ และมันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
10. จอห์น สโตนส์
หลังปราศจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่ฟิตจนชวดบินมากับทีม เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม แมนฯ ซิตี้ จึงเป็นคีย์แมนในแดนหลังของ เซาธ์เกต และตลอดสามเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ เขาแสดงให้เห็นว่าทีม สิงโตคำราม สามารถพึ่งพาเขาได้
9. มาร์ค เกฮี
เป็นตัวเลือกที่ถูก เซาธ์เกต ส่งลงเล่นเป็นคู่ขาของ สโตนส์ และสตาร์วัย 23 ปีจากทีม คริสตัล พาเลซ ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังแม้อาจมีบางจังหวะที่เขาติดประมาทเล็กน้อย และต้องเรียนรู้กันต่อไป
8. แฮร์รี่ เคน
ในฐานะกัปตันและดาวซัลโวของทีม ดาวยิงทีม บาเยิร์น มิวนิค จึงเป็นอีกรายที่ไม่มีทางถูกดร็อปแม้ในรายการนี้เขาจะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่อันตรายมากพอ และสอยตาข่ายได้แค่เม็ดเดียวเท่านั้น
7. จู๊ด เบลลิ่งแฮม
เปิดตัวอย่างสวยในเกมแรกด้วยการโขกประตูพาทีมสยบ เซอร์เบีย 1-0 แต่อีกสองเกมต่อมาสตาร์ทีม เรอัล มาดริด ฟอร์มตกอย่างน่าผิดหวังโดยเฉพาะนัดเสมอกับ สโลวีเนีย แต่ยังไงซะพ่อค้าแข้งวัย 20 ปีไม่มีทางโดนดร็อปเช่นกันหลังสร้างผลงานกับ ราชันชุดขาว เมื่อซีซั่นที่ผ่านมาได้อย่างเด็ดดวง
6. เดแคลน ไรซ์
เซาธ์เกต เคยตั้งคำถามกับตัวเองก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ว่าจะส่งใครลงเล่นคู่กับดาวเตะทีม อาร์เซน่อล ดีหลังปราศจาก คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางคนโปรดซึ่งฟอร์มตก และปรากฏว่าเขาเลือกใช้งาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ซึ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าอดีตมิดฟิลด์ทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คือกองกลางตัวรับหมายเลขหนึ่งของเขาที่ไม่มีใครสามารถแทนที่ได้
5. ไคล วอล์คเกอร์
จากการที่ เซาธ์เกต ตัดสินใจอย่างพิลึกพิลั่นทดลองให้ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ขยับไปเล่นในแดนกลางอย่างเต็มตัว มันจึงหมายความว่าจอมเก๋าทีม แมนฯ ซิตี้ คือแบ็คขวาหมายเลขหนึ่งของ ทรี ไลอ้อนส์ และจากที่เห็น วอล์คเกอร์ ในวัย 34 ปียังมีสปีดเร็วจัดที่สามารถรับมือกับปีกฝ่ายตรงข้ามได้ไม่ยาก
4. ฟิล โฟเด้น
ล่อแหลมต่อการเสียตำแหน่งไม่น้อยแม้จะมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกับ แมนฯ ซิตี้ แต่ไม่เคยโดดเด่นในสีเสื้อ ทรี ไลอ้อนส์ โดยเชื่อกันว่า เซาธ์เกต วางตำแหน่งที่ผิดพลาดให้กับเขา ขณะที่บางรายมองว่าคุณพ่อลูกสามเล่นทับตำแหน่งกับ เบลลิ่งแฮม จึงทำให้เขามีแววถูก กอร์ดอน แย่งตำแหน่งปีกซ้ายไม่น้อย
3. บูคาโย่ ซาก้า
เป็นอีกหนึ่งนักเตะคนโปรดของ เซาธ์เกต เนื่องจากจองตำแหน่งปีกขวาอย่างถาวร แต่จากสามเกมแรก ดาวเตะทีม อาร์เซน่อล ยังคายพิษสงไม่ออกจึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจเสียตำแหน่งให้กับ พาลเมอร์
2. คีแรน ทริปเปียร์
สวมบทแบ็คซ้ายจำเป็นเนื่องจาก ลุค ชอว์ ยังลงสนามไม่ได้ แต่ล่าสุดว่ากันว่ากองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ฟิตพร้อมบู๊กับ สโลวาเกีย แล้ว ประกอบกับแบ็คขวาทีม นิวคาสเซิ่ล มีอาการเจ็บน่องมานานจึงน่าจะหล่นไปนั่งข้างสนามในรอบน็อกเอาต์
1. คอเนอร์ กัลลาเกอร์
ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมเสมอกับ สโลวีเนีย แต่ถูกถอดออกช่วงครึ่งหลังให้ เมนู ลงบู๊แทนจึงชัดเจนว่าฟอร์มของดาวเตะวัย 24 ปีไม่เข้าตา เซาธ์เกต และไม่น่าจะมีสิทธิ์ติดโผ 11 คนแรกในทัวร์นาเมนต์นี้อีกต่อไป