ฟุตบอลมาพร้อมความประหลาดใจเสมอโดยเฉพาะบอลทัวร์นาเมนต์ด้วยแล้ว เราจึงได้เห็นชาติเล็กๆที่เพิ่งได้โอกาสเข้ามาอย่างจอร์เจียเป็น1ใน16ชาติสุดท้าย ขณะเดียวกันเราก็ยังได้พบแล้วว่าทีมตัวเต็งก็ไม่จำเป็นว่าต้องมีผลงานยอดเยี่ยมตามราคาคุย คงไม่ต้องเอ่ยใช่ไหมว่ามันคือประเทศอะไร
ส่วนตัวผมเองนั้นมีความประทับใจในหลายสิ่งตลอดสองสัปดาห์มานี้
หากเปรียบเยอรมันเป็นหนังสือสักเล่มก็คงได้พลิกอ่านไปแล้วหลายหน้าพอควร ถึงจะยังไม่จบเล่มซึ่งแน่นอนก็ต้องใช้เวลาแต่ก็ถือว่าได้เรียนรู้ชาติที่ภาคภูมิใจในแบรนด์ตัวเองได้เยอะกว่าตอนลากกระเป๋าเข้ามา
8 สนามกับ8เมืองที่ได้สวมรองเท้าไปมา
นี่คือที่สุดในใจจากการได้ออกเดินทางตลอดรอบแรกของยูโร2024
1.สนามที่ชอบที่สุด
จริงแล้วเป้าหมายที่อยากไปที่สุดได้แก่สนามสีเหลืองของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็เคยได้แต่ฟังกิตติศัพท์'Yellow Wall'มาซึ่งผมเองมีโอกาสได้ไปมาแล้วสองครั้ง ต้องยอมรับว่าการออกแบบสนามนั้นมีความคล้ายในอังกฤษก็ไม่แปลกใจว่าทำไมบรรยากาศถึงดี
อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นเกมทีมชาติ ไม่ใช่สโมสรจึงทำให้ฟีลลิ่งนั้นไม่สุด ยังไม่ได้ยินพวกแฟนเสือเหลืองตะเบ็งลำคอYou'll never walk alone
จาก8สังเวียนที่ได้ไปมาก็มีข้อดีที่ต่างกันออกไป บ้างทันสมัย บ้างถ่ายรูปสวย บ้างคลาสสิค หากให้เลือกในใจแล้วขอเทไปให้สนามของแฟร้งค์เฟิร์ตที่ตั้งอยู่กลางป่าโดยที่รอบๆก็มีประวัติศาสตร์ของสโมสรแฝงไว้
อย่างหนึ่งแฟร้งค์เฟิร์ตเป็นเมืองเดียวในเยอรมันที่มีตึกสูงระฟ้า ฉายาของพวกเขา'Germany Manhatton'แต่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์สามารถเจอเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าต้นไม้
คลาสสิคที่สุด
(ไส้กรอกแกงกะหรี่ของเบอร์ลินรสชาติโดนที่สุดโดยส่วนตัว )
2.ไส้กรอกที่โดนที่สุด
มาเยอรมันแล้วไม่ลองไส้กรอกก็เหมือนมาไม่ถึงดังนั้นจึงตั้งปณิธาณไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าจะต้องไปกินไส้กรอกให้ครบทุกสนาม
ของกินในยูโรคราวนี้ย่อมถูกปากหลายๆคนครับ ไม่เหมือนในอังกฤษที่มีแต่พายหรือเบอร์เกอร์เพราะทุกสนามจะนำเสนอความภูมิใจของท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนาน นั่นก็คือไส้กรอกโดยมีหลายชนิดให้เลือกด้วย
ที่ผมมักสั่งก็จะเป็นไส้กรอกแกงกะหรี่หรือเรียกว่าCurrywurst
ครับ หลังตระเวนลองมาแล้ว8สนาม(เหลือที่ไลป์ซิกกับมิวนิค)ก็ได้ผู้ชนะแล้วเป็นของเบอร์ลินที่รสชาติตัวแกงกะหรี่เข้มข้น ส่วนไส้กรอกก็เนื้อแน่นสู้ฟัน
เอาไปเลยเต็มสิบ
3.กองเชียร์ที่ได้ใจที่สุด
ยอมรับว่าข้อนี้ตัดสินใจยากเพราะแต่ละชาติล้วนแสดงออกมาถึงแพสชั่นแบบฉบับของตนออกมาอย่างยอดเยี่ยมเช่นการที่มีชาวสกอตแลนด์แห่กันมาร่วม2แสนคน หลายคนมาเพื่อเอาใจช่วยอยู่ข้างนอกไม่ได้มีตั๋วด้วยซ้ำ
ผมยังมีโอกาสได้ไปอยู่ในวงล้อมของพวกออสเตรียโดยพวกเขารวมตัวกันก่อนหลายพันชีวิตเลยเพื่อปลุกใจก่อนร่วมยกพลไปสนาม วันนั้นเตะที่เบอร์ลินซึ่งสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยมก็ใช่ว่าจะใกล้เลย ใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมง
อีกวันก็เคยไปร่วมชุมนุมกับกองเชียร์เดนมาร์ก ส่วนอีกวันก็ไปยืนดูพวกตุรกีจุดพลุไฟส่งเสียงเชียร์แต่ความที่ตัวเองนั้นมักอ่อนไหวให้กับน้ำตาสาวก็เลยต้องให้จอร์เจียไปในข้อนี้
ชาติที่มีอันดับฟีฟ่าต่ำสุดในทัวร์นาเมนต์ที่เข้ารอบ16ไปแล้วเคยฉลองกันสุดเหวี่ยงพอทีมยิงประตูได้ในเกมแรกกับตุรกี ต่อมาก็เคยสะอื้นไห้พอทีมได้แต้มแรกในเกมกับเช็ก
มันทำให้ลึกซึ้งเลยว่าเจ้าลูกกลมๆมหัศจรรย์แค่ไหน
มันทำให้เราอยากจะเป็นจะตายยังไงได้ทั้งนั้น
(กองเชียร์จอร์เจียทำให้ผมประทับใจที่สุดในรอบแรก)
4.เกมที่ชอบที่สุด
แน่ๆจะไม่ใช่เกมที่ทีมชาติอังกฤษลงเตะ(ฮ่า)ซึ่งตรงไปตรงมาก็ไม่ง่ายเลยที่จะให้หยิบมาเพียงเกมเดียว ทว่าพอทบทวนดูแล้วก็ตัดสินใจไปที่แมตช์ระหว่างเบลเยี่ยมกับยูเครน
ใช่ครับ-เบลเยี่ยมกับยูเครนที่จบลงด้วยการเสมอ0-0
ถูกต้องว่ามันไม่ใช่เกมที่สนุกที่สุดในรอบแรกแต่มันเป็นเกมที่ทำให้ผมได้เห็นถึงความงามของดอกไม้ช่อหนึ่งที่วางอยู่ตรงหน้า ดอกไม้นั้นคงเบ่งบานได้แม้ในวันที่ฝนตกและลมกรรโชกแรง
ยูเครนเป็นชาติที่น่าเห็นใจอย่างยิ่งครับ พวกเขาต้องตกรอบโดยมี4แต้มเท่ากับทีมอื่นๆร่วมสาย นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยูโรมีมาด้วย ถึงกระนั้นแฟนบอลคงร้องเพลง ร้องไม่หยุด ตอนเกมจบต่างก็คงอยู่รอปรบมือให้นักเตะตัวเองที่ทำเต็มที่แล้ว
ในระหว่างเกมก็มีกางผ้าที่มีข้อความอยากสื่อสารถึงชาวโลกให้รับทราบความจริงข้อหนึ่ง'Peace has a price'
จบเกมผมก็เดินไปขึ้นรถไฟร่วมกับกองเชียร์ยูเครนอีกหลายร้อยที่บ้างคงโบกธงตัวเองขึ้นฟ้า จากนั้นก็มีผู้นำขึ้นเพลงอะไรสักอย่างจนทุกคนร้องตาม ผมฟังไม่ออก ผมไม่รู้ด้วยว่ามันคือเพลงอะไร ผมไม่อยากถามด้วย
รู้แต่ว่าเมโลดี้ของเพลงช่างบาดลึกหัวใจ
"ไก่ป่า"