โครเอเชีย กับ อิตาลี เสมอกันไป 1-1 แบบโคตรดราม่าสอดไส้การหักมุมอย่างรุนแรงแบบเกินห้ามใจดีนักแล และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก
1. ทีมตราหมากรุกต้องการชัยชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้น เพื่อเข้ารอบ ขณะที่แชมป์เก่า ขอแค่แต้มเดียวก็เพียงพอ
แบบนี้เหมือนจะเข้าทางตีน อัซซูรี่ แต่ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ที่โรเตชั่นหลายตำแหน่ง เพื่อความสดก็ไม่ถึงขนาดเอารถบัสมาจอด
รูปเกมค่อนข้างสูสี แม้ โครเอเชีย จะครองบอลมากกว่าก็ตาม
2. ดราม่าแรกเกิดขึ้น เมื่อพวกโครแอตได้จุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของคู่แข่ง
แม้จะไม่เจตนา ทว่าแขนที่กางออกมาขัดขวางทิศทางบอลที่เหมือนจะเลี้ยวเข้ากรอบ ดังฉะนั้นจึงเป็นจุดโทษ 100%
แต่ ลูก้า โมดริช กลับสังหารพลาด
อย่างไรก็ตามมันเกิดการหักมุมในจังหวะต่อเนื่องที่ โครเอเชีย ยังครองบอลแล้วบุกเข้ามาอีกชุด
ก่อนที่ ลูก้า โมดริช จะแก้ตัวได้สำเร็จด้วยการกระทุ้งเข้าไปตุงตาข่าย ห่างจากการยิงจุดโทษพลาดประมาณ 30 วินาที
จังหวะแบบนี้หาดูยากนะครับ
3.เมื่อตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน
อิตาลี ก็ปรับโหมดเป็นการเร่งเกมรุกเข้าใส่แบบเต็มระบบ ผู้เล่นประเภทกองหน้าถูกส่งลงมาแบบเต็มพิกัด
ปัญหาคือหาจังหวะจบแบบเหน่งๆ ไม่เจอ และชะรอยว่าน่าจะตีเสมอไม่สำเร็จซะด้วย
4. ครบ 90 นาที ตุลาการข้างสนามยกป้ายทดเจ็บนานถึง 8 นาที !!!
อืมมมมมม...นะ
คือมึงเอา 8 นาทีมาจากไหนครับ ???
เข้าใจว่ามีการเช็ค VAR ในจังหวะจุดโทษ แถมเกมหยุดบ่อย น่าจะเพราะ โครเอเชีย ที่หันมาเล่นแบบรักษาสกอร์จำต้องตัดฟาวล์เป็นระยะ
ผมมองว่ายังพอสมเหตุสมผลอยู่
5. เวลาที่เหลือพลพรรคอัซซูรี่บุกหนักจริง แต่ไม่มีวี่แววว่าจะทำลายตาข่ายได้เลยนะครับ
ขณะเดียวกัน โครเอเชีย เริ่มติ๊ดชึ่งทำลายเวลาให้หมดไปเรื่อยๆ ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร พวกเขากำลังจะพลิกสถานการณ์เข้ารอบ ด้วยประตูชัยของ ลูก้า โมดริช
บัดดล...พวกเขากลับเลินเล่อระดับ 10 เปิดพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษด้านขวาของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ และมหาศาล !!!
ก่อนที่ตัวสำรองอย่าง มัตติอา ซัคคานยี่ ที่สับตีนเข้าไปอยู่ตรงนั้นจะบรรจงปั่นลูกเข้าไปเสียบเสาไกลแบบเยือกเย็นผิดมนุษย์มนา
โครเอเชีย เด๊ดห่าทันที
-บอ.บู๋-