ทำได้ชนะแน่ ! 3 ข้อ อังกฤษ ควรปรับเกมฟัด สโลวีเนีย

ทำได้ชนะแน่ ! 3 ข้อ อังกฤษ ควรปรับเกมฟัด สโลวีเนีย
ทีมชาติ อังกฤษ มีคิวลงเล่นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูโร 2024 ดวลกับ สโลวีเนีย ในวันอังคารนี้

จากสองเกมที่ผ่านมา ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เก็บได้สี่แต้มจากการเอาชนะ เซอร์เบีย 1-0 และเสมอกับ เดนมาร์ก 1-1

แน่นอนว่าทีม สิงโตคำราม ยังไม่แพ้ และสี่แต้มก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้ แต่ด้วยฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจทำให้ทีมเมืองผู้ดีถูกวิจารณ์อย่างหนัก

โดยเฉพาะประเด็นการใช้งาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวา ลิเวอร์พูล ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวจริงตลอดสองเกมแรก และปรากฏว่าไม่เป็นผลดีจนเชื่อกันว่า เซาธ์เกต จะยอมลดทิฐิด้วยการดร็อปกองหลัง หงส์แดง ออก และส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางทีม เชลซี ออกสตาร์ตแทนในเกมปะทะกับ สโลวีเนีย

ขณะเดียวกัน หลังจากโชว์ศักยภาพได้ไม่สมศักดิ์ศรีเต็งหนึ่ง ร้านรับพนันพากันปรับลดอัตราต่อรองให้ สิงโตคำราม ตกมาเป็นเต็งสามรองจาก ฝรั่งเศส และ เยอรมนี แล้ว

จะอย่างไรก็ตาม ในเกมบู๊กับ สโลวีเนีย ซึ่งยังมีลุ้นเข้ารอบเช่นกันจากผลเสมอทั้งสองเกมแรกกับ เดนมาร์ก และ เซอร์เบีย ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งคู่จะเป็นโอกาสที่ เซาธ์เกต สามารถแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ทีมเมืองผู้ดีสมควรมีการเปลี่ยนแปลงสามสิ่งดังนี้

1. ต้องกล้าเล่นเกมรุก

เท่าที่ผ่านมา เซาธ์เกต ถูกเย้ยหยันว่าเป็นผู้จัดการทีมประเภทไม่กล้าได้กล้าเสีย และเน้นผลลัพธ์เป็นสำคัญซึ่งส่งผลให้ทีมชาติ อังกฤษ มีฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจแม้เขาจะพาทีมเข้ารอบลึกฟุตบอลรายการใหญ่ได้โดยตลอดก็ตาม

โดยเฉพาะเกม ยูโร 2020 หรือเมื่อสี่ปีก่อนซึ่ง อังกฤษ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ อิตาลี  แถมออกนำเร็วตั้งแต่ต้นเกมด้วย แต่สุดท้ายพวกเขาก็เสียประตูคืนก่อนแพ้ที่ เวมบลีย์ ด้วยการดวลลูกโทษตัดสิน

มาคราวนี้ เซาธ์เกต ซึ่งเหลือสัญญากับ สมาคมฟุตบอล (เอฟเอ) จนถึงเดือนธ.ค.นี้ยังคงคุมทีมเล่นแบบเพลย์เซฟตามสไตล์เดิมจากสองเกมแรกของศึก ยูโร 2024 และหนีไม่พ้นโดนวิจารณ์อีกตามเคย

จากเกมชนะ เซอร์เบีย 1-0 อังกฤษ เริ่มต้นได้ดี และนำหน้าตั้งแต่ไก่โห่จากลูกโขกของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม แต่จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่ม

ถัดมาในเกมเจ๊ากับ เดนมาร์ก อังกฤษ นำเร็วอีกเช่นกันจากฝีเท้าของ แฮร์รี่ เคน แต่เป็นอีกเกมที่ทีม สิงโตคำราม ยังคงเล่นแบบตีหัวเข้าบ้านด้วยการเน้นรักษาสกอร์ และไม่เล่นเสี่ยงด้วยเกรงว่าจะเสียประตูกระทั่งโดนทีมโคนมทวงคืน และตกเป็นรองอย่างชัดเจนนับจากนั้น

กระนั้นก็ดี แม้ อังกฤษ จะเอาตัวรอดจาก เดนมาร์ก ไปได้ แต่ภาพรวมจากสองเกมแรกแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังเล่นในสไตล์เน้นรัดกุมไม่บุ่มบ่ามโดยเฉพาะเกมเสมอกับ เดนมาร์ก ซึ่งแทบไม่มีใครโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเลย ไม่เว้นแม้แต่ เบลลิ่งแฮม ที่ฉายลีลาได้ดีในเกมประเดิมทัวร์นาเมนต์

สำหรับนัดปะทะกับ สโลวีเนีย ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ทรี ไลอ้อนส์  ยังคงมีศักยภาพที่เหนือกว่าเนื่องจากคู่แข่งของพวกเขาไม่ใช่ทีมยักษ์ของทวีป

แต่ก็นั่นแหละ อังกฤษ จะเล่นแบบเหยาะแหยะเหมือนสองเกมแรกไม่ได้โดยเฉพาะเกมล่าสุดซึ่งพวกเขาครองบอลเป็นรอง เดนมาร์ก รวมทั้งโอกาสยิงประตู และการซัดบอลเข้ากรอบก็เป็นรองทีมโคนมซึ่งไม่ใช่ฟอร์มของทีมเต็งแชมป์

ฉะนั้นแล้วเพื่อให้แฟนบอลแฮปปี้กับฟอร์มการเล่นพร้อมทั้งคว้าชัยชนะ อังกฤษ จะต้องหันมาครองบอลทำเกมรุกให้มากขึ้นกว่าที่เห็นไม่ใช่เน้นคุมจังหวะ และผ่านบอลคืนหลังยันเตหากไม่มีจังหวะเข้าทำอย่างชัดเจน

ต่อการเล่นดังกล่าว ทีมของ เซาธ์เกต จะเป็นฝ่ายกดดันใส่คู่แข่ง และอาจทำให้ สโลวีเนีย ถูกบีบจนก่อความผิดพลาดได้ ไม่ใช่เน้นดึงเกมช้ากระทั่งเป็นฝ่ายโดนโจมตีซะเองเหมือนเกมก่อนหน้านี้กับ เดนมาร์ก

และที่สำคัญ อังกฤษ มีแผงรุกที่น่าเกรงขามไม่แพ้ชาติไหนกับการมีสตาร์อย่าง เคน , เบลลิ่งแฮม ,บูคาโย่ ซาก้า และ ฟิล โฟเด้น อยู่ในทีม พวกเขาจึงสมควรเป็นฝ่ายเดินหน้าใส่ฝ่ายตรงข้ามหากหวังคว้าแชมป์มาครองเพราะยิ่ง สิงโตคำราม เล่นเกมรุกมากเท่าไหร่ เคน ก็จะมีโอกาสทำสกอร์มากขึ้นเท่านั้น

2. พึ่งพา แอนโธนี่ กอร์ดอน

นอกจากปัญหาของ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แล้ว เซาธ์เกต ถูกสับเช่นกันที่ส่ง โฟเด้น ลงเล่นเป็นปีกซ้ายซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัดของดาวเตะทีม แมนฯ ซิตี้ และทำให้เขาร่ายพิษสงไม่ได้กับทีมชาติ ผิดไปจากผลงานกับ เรือใบสีฟ้า ลิบลับ

ฉะนั้นแล้วจึงไม่แปลกที่มีเสียงเรียกร้องให้ เซาธ์เกต ส่ง กอร์ดอน ปีกซ้ายทีม นิวคาสเซิ่ล ลงสนามสักทีเนื่องจากดาวเตะทีม สาลิกาดง มีฟอร์มที่ดีจากซีซั่นก่อนทั้งสามารถกระชากบอลหนีคู่แข่งได้ และยิงประตูได้ไม่เลวด้วย

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เอฟเวอร์ตัน ปีกซ้ายวัย 23 ปีมีพัฒนาการของฝีเท้าที่รุดหน้าอย่างชัดเจน อีกทั้งจากการซ้อมของทีม สิงโตคำราม หนล่าสุดมีการยืนยันว่าไร้ปัญหาบาดเจ็บ แม้กระทั่ง ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ลงซ้อมได้แล้วเช่นกัน

จากสองเกมแรกที่ไร้ ชอว์ เซาธ์เกต แก้ปัญหาด้วยการส่ง คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาทีม นิวคาสเซิ่ล ลงสนามซึ่งถือว่าพอถูไถได้ มันจึงน่าแปลกใจที่เขาไม่คิดส่งนักเตะที่ฟิตสมบูรณ์อย่าง กอร์ดอน ลงเล่นในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติของเขา

สำหรับ โฟเด้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะฝีเท้าฉกาจของ อังกฤษ แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าแนวทางการคุมทีมของ เซาธ์เกต ต่างไปจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลิบลับ มันจึงเป็นธรรมดาที่พ่อค้าแข้งทีม เรือใบสีฟ้า จะรีดฟอร์มเก่งกับทีมชาติออกมาไม่ได้

เมื่อเป็นอย่างนี้ บางที เซาธ์เกต จึงสมควรเสี่ยงใช้บริการ กอร์ดอน ทางกราบซ้ายเหมือนที่นักวิจารณ์ส่งเสียงสนับสนุน ประกอบกับการมี ซาก้า กระชากลากเลื้อยอยู่อีกฝั่ง มันก็น่าจะทำให้เกมโจมตีของทีมเมืองผู้ดีกดดันคู่แข่งได้มากกว่าที่เป็นอยู่

3.ถอย จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลงต่ำ

ไม่มีใครปฏิเสธว่านาทีนี้ เบลลิ่งแฮม เป็นหัวใจสำคัญของทั้ง อังกฤษ และ เรอัล มาดริด ไปแล้วจากความสามารถในการพังประตูของเขา

ดังจะเห็นว่าเกมแรก เบลลิ่งแฮม สร้างชื่อคลำเป้าให้ทีม สิงโตคำราม ได้เป็นคนแรกของทัวร์นาเมนต์ แต่ถัดมานัดดวลกับ เดนมาร์ก แทนที่สตาร์วัย 20 ปีจะสร้างชื่อได้เพิ่มเติม กลับกลายเป็นว่าเขามีผลงานที่ตกลงไปเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติ

ประเด็นสำคัญมีการวิเคราะห์กันว่าเป็นเพราะ เซาธ์เกต เน้นรัดกุมมากไปจนทำให้นักเตะแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่

ขณะเดียวกัน มีการแนะนำ เซาธ์เกต ว่าภายใต้ระบบ 4-5-1 หรือ 4-2-3-1 ตามแต่จะเรียกขาน เขาสมควรปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนักเตะเล็กน้อยด้วยการถอย เบลลิ่งแฮม ลงต่ำมาช่วยงาน เดแคลน ไรซ์ แทน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ พร้อมทั้งย้าย โฟเด้น จากตำแหน่งปีกซ้ายให้เล่นเป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุน เคน จะดีกว่าเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะแม้ เบลลิ่งแฮม จะสอดแทรกเข้าหาพื้นที่ยิงประตูได้อย่างฉกาจฉกรรจ์ แต่ขณะเดียวกันเขาเป็นนักเตะที่มีความขยันขันแข็ง และแอคทีฟตลอดเวลา อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะมากกว่า โฟเด้น 

อย่างไรก็ดี จากความคืบหน้าล่าสุด สื่อเมืองผู้ดีปูดว่า เซาธ์เกต จะส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงเล่นเป็นกองกลางแทน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ในเกมบู๊กับ สโลวีเนีย หลังจากสองเกมแรกดาวเตะทีม เชลซี ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนสตาร์ทีม ลิเวอร์พูล 

หากเป็นอย่างนั้น บางที กอร์ดอน ก็น่าจะต้องร้องเพลงรอต่อไปโดยที่ โฟเด้น อาจต้องเล่นเป็นปีกซ้ายตามเดิมแม้จะสำแดงพิษสงออกมาไม่ได้ตลอดสองเกมแรก

จะอย่างไรก็ตาม ฟุตบอลเป็นเรื่องของการฉวยโอกาส และการก่อความผิดพลาด ไม่ว่า เซาธ์เกต จะตัดสินใจอย่างไรมันก็ต้องไปวัดกันอีกทีในสนามเป็นสำคัญ


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport