ถ้าไม่ปรับอย่าฝันไกล ! 5 ปัญหาที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องแก้ไขหากหวังนำ อังกฤษ คว้าแชมป์ยูโร 2024

สถานการณ์ของ อังกฤษ ในศึกยูโร 2024 ค่อนข้างน่าเป็นห่วง แม้พวกเขาจะรั้งอันดับ 1 ในกลุ่ม ซี หลังผ่านไป 2 เกม แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่เข้าตา โดยเฉพาะในแมตช์ล่าสุดที่เสมอ เดนมาร์ก 1-1 ซึ่งถ้าหากมองภาพรวมแล้วพวกเขาได้ 1 คะแนนแบบร่อแร่เหลือเกิน

 ก่อนหน้านี้ "สิงโตคำราม" ก็คว้าสามคะแนนจากการเฉือนชนะ เซอร์เบีย 1-0 ซึ่งฟอร์มการเล่นก็กระท่อนกระแท่นเหลือเกิน นั่นทำให้พวกเขาโดนวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ดูเหมือนจะวางแท็กติกและ 11 ผู้เล่นตัวจริงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขณะที่การแก้เกมก็ยังน่าผิดหวัง ฉะนั้นการมี 4 คะแนนถือว่าโชคดีมากๆ สำหรับ อังกฤษ

 สำหรับพวกเขาถูกได้รับการยกย่องให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ยูโรบนแผ่นดินเยอรมนี แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว และถ้า เซาธ์เกต ต้องการที่จะพาบ้านเกิดเมืองนอนคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ เขาต้องรีบปรับแก้ปัญหา 5 เรื่องอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะประสบความสำเร็จได้เลย 

 1. เรียกความเฉียบคม เคน กลับมาให้ได้

 เดนมาร์ก สมควรได้รับเครดิตอย่างมากกับวิธีการเล่นที่จัดการจำกัดพื้นที่เกมรุกของ อังกฤษ ทั้งๆ ที่พวกเขาต้องสู้กับพวกแนวรุกพรสวรรค์สูงเลือดผู้ดี โดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหน้าเป้าที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน 

 หัวหอก "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แทบไม่มีโอกาสยิงประตูเลยในเกมแรก ขณะที่เกมสองเขาสามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็แทบไม่มีบทบาทอะไรมากนัก เพราะโดนเกมรับของ เดนมาร์ก จัดการรับมืออยู่หมัด

 ที่สำคัญ เคน ยังมีส่วนต้องรับผิดชอบในจังหวะที่โดน เดนมาร์ก ประตูตีเสมอ เพราะเขาส่งบอลพลาดบริเวณพื้นที่ฝั่งตัวเอง แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปสองแมตช์ อดีตดาวยิง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย

 งานนี้ เซาธ์เกต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางดึงศักยภาพในการถล่มประตูของ เคน กลับมาให้ได้ และถ้าหากทำไม่ได้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการปรับเปลี่ยนแท็กติก เพราะในซุ้มม้านั่งสำรองผู้เล่นเกมรุกอย่าง ไอแวน โทนี่ย์, โอลลี่ วัตกิ้นส์, แอนโธนี่pN กอร์ดอน และ โคล พาร์เมอร์ อาจจะต้องให้โอกาสพวกเขามากกว่าขึ้นกว่าเดิม 

2. แบ็กซ้ายต้องพัฒนาให้ดีขึ้น

 ทุกคนรู้ดีว่า คีแรน ทริปเปียร์ ไม่ใช่แบ็กซ้ายธรรมชาติ และฟอร์มการเล่นของเขามันห่างไกลกับการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาในตำแหน่งแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ แน่นอนว่านี่คือคำถามที่หลายคนสงสัยว่าทำไม เซาธ์เกต ถึงยังฝืนใช้งานเขาในตำแหน่งนี้ต่อไปอีก

 สิ่งที่ทำให้แฟนบอล "สิงโตคำราม" ไม่ปลื้มก็คือ เซาธ์เกต เลือก ลุค ชอว์ ติดทีมชุดนี้ทั้งๆ ที่ไม่ฟิตและมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แม้จะพอจะเข้าใจได้ว่า อังกฤษ ไม่มีแบ็กซ้ายธรรมชาติมากนัก แล้วทำไมเขาถึงไม่ให้โอกาส เบน ชิลเวลล์ แม้ฟอร์มอาจจะไม่ได้โดดเด่นกับ เชลซี แต่ก็ยังดีกว่าเอานักเตะสภาพไม่พร้อมมาลุยยูโร

 การตัดสินใจของ เซาธ์เกต ทำให้ อังกฤษ มีแบ็กซ้ายธรรมชาติเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แถมยังไม่พร้อมลงเล่นด้วย และไม่รู้ว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ !!?? ดังนั้นการใช้ ทริปเปียร์ ก็แค่การแก้ปัญหาแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด และดูเหมือนมันจะไม่รอดซะด้วย แต่จะโทษ สตาร์ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้ เพราะ "บอส" สั่งให้เล่นก็ต้องเล่น

 ตอนนี้ นายใหญ่เลือดผู้ดี อาจจำเป็นต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในแมตช์สุดท้ายที่จะพบกับ สโลวีเนีย และตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กซ้ายน่าจะลองใช้งาน โจ โกเมซ ซึ่งทำผลงานได้ดีมากๆ ตอนที่เล่นให้ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แม้เขาจะโดดเด่นในการยืนเซนเตอร์แบ็ก แต่เมื่อถูกจับโยกไปยืนฟูลแบ็กไม่ว่าจะฝั่งขวาหรือซ้ายก็ทำได้ดีไม่มีที่ติด้วย 

 โกเมซ แสดงให้เห็นมาแล้วหลายครั้งว่าสามารถรับบทบาทแบ็กซ้ายได้สบายๆ และจุดเด่นของเจ้าตัวก็คือการกล้าที่จะดันเกมรุก ขณะที่เกมรับก็เหนียวแน่น ฉะนั้นมันถึงเวลาที่ เซาธ์เกต จะต้องตัดสินใจปรับแท็กติกหากอยากไปให้ไกลมากกว่านี้ 

3. แผงมิดฟิลด์ต้องปรับด่วน

 สำหรับตำแหน่งที่โดนวิจารณ์อย่างหนักคงหนีไม่พ้นแผงกองกลาง โดยเฉพาะการที่ เซาธ์เกต ทดลองใช้งาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยืนมิดฟิลด์ และดูเหมือนว่านักเตะยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย จนกลายเป็นเป้าโจมตีตลอด 2 แมตช์ที่ผ่านมา

 สตาร์แบ็กขวาลิเวอร์พูล เล่นไม่ออกมาเหมือนเดิมในแมตช์ล่าสุด ทำให้ถูกถอดออกไปในช่วงต้นครึ่งหลัง และนั่นนำไปสู่คำถามมากมายว่า "รองเทรนต์" เหมาะที่จะยืนทำหน้าที่ตรงกลางหรือไม่ เพราะสองเกมที่ผ่านมา เขาไม่ได้แสดงศักยภาพอะไรออกมาเลย

 ตอนนี้หลายคนมองว่า เซาธ์เกต จำเป็นต้องให้โอกาสตัวสำรองที่มีธรรมชาติในการเล่นตรงกลางอย่างแท้จริงทั้ง ค็อบบี้ เมนู และ  อดัม วาร์ตัน สองสตาร์ดาวรุ่งสายเลือดใหม่ทีมชาติอังกฤษ เพราะพวกเขามีทักษะในตำแหน่งกองกลางมากกว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

 นี่คือสถานการณ์ที่ เซาธ์เกต ต้องตัดสินใจ ถ้าหากเขาไม่ยึดติดกับการใช้งาน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ โดยกล้าเสี่ยงใช้งาน เมนู หรือ วาร์ตัน แม้ทั้งคู่จะอายุน้อยและขาดประสบการณ์ แต่อย่าลืมว่าด้วยความเป็นดาวรุ่ง พลังกายและพลังใจของพวกเขาอาจเป็นสิ่งสำคัญช่วยทีมได้ 

4. พึ่งพาตำแหน่งเบอร์ 10 มากเกินไป

 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไม่ใช่จุดเดียวเท่านั้นในแดนกลางที่ต้องรีบแก้ไข เพราะ จู๊ด เบลลิงแฮม ก็ทำผลงานไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แม้เกมแรกจะเป็นคนทำประตูโทนให้ทีมชนะ เซอร์เบีย แต่แมตช์กับ เดนมาร์ก แทบไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย

 สตาร์ดาวรุ่ง เรอัล มาดริด เล่นไม่ออกตลอดทั้งเกมในแมตช์เสมอทัพ "โคนม" และนั่นทำให้ อังกฤษ ต้องเจอปัญหาไปด้วย เพราะถ้า เบลลิงแฮม เล่นไม่ออก การสร้างสรรค์เกม และโอกาสในการทำประตูก็ลดน้อยถอยลงไปด้วยเช่นกัน

 ขณะที่ ฟิล โฟเด้น ซึ่งเป็นผู้เล่นตัวรุกที่ดีที่สุดของ "สิงโตคำราม" ในชุดนี้ ยังคงเล่นไม่ออกเช่นกัน บางทีนั่นอาจจะมีผลมาจากการที่ต้องพึ่งพาการปั้นเกมของ เบลลิงแฮม มากเกินไป และแน่นอนว่า เซาธ์เกต จะต้องหาทางแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นเกมบุกของพวกเขาคงไม่มีทางไหลลื่น

 แน่นอนว่า เซาธ์เกต คงไม่คิดที่จะถอด เบลลิงแฮม ออกเพราะเขายังคงเป็นผู้เล่นคีย์แมนของทีม แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนด้วยการดร็อป โฟเด้น และลองให้โอกาส โคล พาลเมอร์ หรือ แอนโธนี่ กอร์ดอน ลงเป็นตัวจริงในแมตช์สุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม  

5. ปรับทัศนคติ เซาธ์เกต

 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ อังกฤษ กลับมาสู่ฟอร์มที่โดดเด่นเพื่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ยูโร 2024 นั่นก็คือทัศนคิตของ เซาธ์เกต เพราะนับตั้งแต่ที่เปิดฉากทัวร์นาเมนต์บนดินแดนไส้กรอก เขายังไม่สามารถจัดวางแท็กติกหรือการเลือกผู้เล่นได้เหมาะสมเลย

 แมตช์แรกก็ฝืนใช้งาน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ ทริปเปียร์ รวมทั้ง เคน กับ โฟเด้น ขณะที่เกมสองยังคงยึดมั่นในผู้เล่นชุดเดิม แต่ผลงานย่ำแย่กว่าเดิมซะด้วย ที่สำคัญหลายคนมองว่าการแบ่งแต้มกับ เดนมาร์ก ถือว่าโชคดีมากๆ 

 ตอนนี้ถึงเวลาที่ เซาธ์เกต จะต้องลองปรับทัศนคติ และกล้าที่จะใช้งานบรรดาผู้เล่นในซุ้มม้านั่งสำรองซึ่งเป็นแข้งที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น วัตกิ้นส์, กอร์ดอน, พาลเมอร์, เมนู, จาร์ร็อด โบเว่น และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงสนามไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง เนื่องนักเตะเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นมาแล้วกับต้นสังกัด

 การปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างความแปลกใหม่ และเติมความสดเข้าไปในทีม น่าจะเป็นสิ่งที่ เซาธ์เกต ต้องกล้ามากกว่านี้ เพราะถ้าหากเขายังคงยึดมั่นกับระบบเดิม และผู้เล่นชุดเดิม ความหวังที่จะคว้าแชมป์คงแทบจะเป็นศูนย์ !!!

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport