5 วิธีแก้ปัญหาสิงโต

ปัญหาสำคัญของทีมชาติอังกฤษตอนนี้ อยู่ที่พวกตัวผู้เล่นที่เป็นความหวังต่างพากันโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น ภาพของ ฟิล โฟเด้น ภายใต้เครื่องแบบสีฟ้าของ แมนฯซิตี้, ภาพของ บูกาโย่ ซาก้า ที่มีบทบาทโดดเด่นกับ อาร์เซน่อล, ภาพของ เดแคลน ไรซ์ ที่ทำได้ทุกอย่างเท่าที่มิดฟิลด์คนหนึ่งทำได้และแน่นอนภาพของ แฮร์รี่ เคน ที่จะสวมยูนิฟอร์มสีใดก็หมายถึงประตู    

ก็ชัดเจนว่าถึงตรงนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังไม่สามารถปรุงแต่งวัตถุดิบชั้นยอดที่มีในมือให้ออกมาเป็นอาหารที่รสกลมกล่อมได้    

เขาพยายามเอาของที่เชื่อว่าดีสุดมารังสรรค์แต่ผ่านมา 2 เกมถือว่าล้มเหลวเพราะบางทีอาหารที่อร่อยถูกปากก็ขอแค่จานเบสิคที่เข้าถึงรสของอาหารจานนั้นต่างหาก     

ไม่อยากเรียกมันว่าอาถรรพ์ถึงจะนาน 58 ปีแล้ว ที่ชาติผู้ให้กำเนิดเกมกีฬามหาชนได้สัมผัสแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่    

วงออร์เคสต้า จะบรรเลงได้ไพเราะสะกดคนทั้งฮอลล์ได้ ก็ต้องการคอนดัคเตอร์ที่เข้าใจตัวโน็ต    

1.ถ้าต่อบอลไม่เป็นก็รับแล้วโต้ไป    

จะยุคไหนสมัยไหนสไตล์ของฟุตบอลก็แยกกว้างๆได้สองแบบ อย่างแรก ทีมที่เน้นเกมรุกพยายามต่อบอลขึ้นจากหลังขึ้นไป อย่างสอง ทีมที่รู้ถึงศักยภาพตัวเอง(กับคู่แข่ง)รอคอยโอกาสตัวเอง    

ไม่ใช่ทุกทีมแน่ที่ทำได้อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า    

จากสองเกมมานี้อังกฤษดูจะมีปัญหาในการเซตเกมขึ้นไป พวกเขาอาจทำได้ดีตอนสตาร์ทเริ่มเกมแต่พอยิงนำได้ก็กลับมาสะเปะสะปะ นั่นก็แสดงถึงพื้นฐานของพวกเขา    

ก็ถ้ารู้ว่าต่อบอลไม่ได้ ทำไมถึงไม่เปลี่ยนมาใช้เกมสวนเร็วให้เป็นประโยชน์ แท็กติกนี้ทำให้หลายต่อหลายทีมประสบความสำเร็จมานักต่อนัก    

2.เลิกทดลองได้แล้ว    

ตลกบทสัมภาษณ์ของ เซาธ์เกต หลังเกมที่ว่าเขาจับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มายืนมิดฟิลด์ถือเป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง ยังไม่หมดเท่านั้นมีการพูดผ่านโมโครโฟนต่อด้วยว่า "ทุกวันนี้ยังหาใครมาแทน คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่ได้เลย"    

มันเหมือนการฆ่าตัวตาย เอาคอตัวเองไปพาดบนเขียง    

มีอย่างที่ไหนเข้ามารอบสุดท้ายยูโรแล้วยังทดลองอีก มันต้องเป็นแพลนเอที่โค้ชคนหนึ่งเชื่อว่าดีที่สุด โอเคถ้าไม่เวิร์กก็งัดแพลนบีหรือซีมาใช้     

ยังจะมาทดลองอะไรอีกพ่อคุณ!!    

ด้วยเวลาอันสั้นก็ธรรมดาที่ทำให้ เทรนท์ ดูเคอะๆเขินๆกับการเล่นกลางสนามซึ่งความจริงเขาเองมีคุณสมบัติเป็นมิดฟิลด์ได้อยู่แล้ว ทางออกในเวลานี้จึงคือการเอามิดฟิลด์โดยธรรมชาติมาคู่กับไรซ์     

3.เติมความกระหายลงไป    

อีกปัญหาหลักของสิงโตจากเกมที่เสมอ เดนมาร์ก 1-1 อยู่ที่แรงขับเคลื่อนดูน้อยมาก มีนักเตะบางคนที่เหมือนว่ากรำศึกมาหนักจากซีซั่นปกติ นั่นก็ส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนาม

เกมสุดท้ายกับ สโลเวเนีย ชาติที่มีอันดับ 57 ของฟีฟ่าในวันอังคาร จึงถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมเลยในการส่งตัวผู้เล่นที่สดใหม่ลงไปเติมในทีม บนม้านั่งสำรองมีออพชั่นทั้ง โคล พาลเมอร์, แอนโธนี่ กอร์ดอน, ค็อบบี้ ไมนู ไปจนถึง อดัม วาร์ตัน

บางทีกลุ่มพวกนี้แหละอาจจะทำให้พวกตัวจริงกระสับกระส่ายว่าอาจโดนแย่งตำแหน่งก็ได้

บ่อยครั้งฟุตบอลตัดสินผลแพ้ชนะกันที่ความกระหาย ทีมไหนที่วิ่งมากกว่า ใครที่มีใจให้ยูนิฟอร์มที่ใส่เยอะกว่า    

สีสันของแฟนเดนมาร์กในช่วงก่อนเกมกับอังกฤษซึ่งถือเป็นอีกชาติที่แฟนบอลมาสร้างบรรยากาศดีเยี่ยมในยูโรคราวนี้

4.ยังไงเคนต้องลง    

ถึงจะได้สัมผัสบอลเพียงสองครั้งในครึ่งแรกเกมกับเซอร์เบีย ถึงจะได้จับบอลในเขตโทษเดนมาร์กเพียงครั้งเดียวตลอดเกมจนโดนเปลี่ยนออกนาที 70 แต่ยังไงซะเคนก็ต้องออกสตาร์ทตัวจริง

มันยังมีความห่างพอควรระหว่าง เคน กับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ หรือว่า อีวาน โทเนย์

การมีส่วนร่วมของ เคน กับทีมอาจดูมีน้อยไปแต่ก็ไม่ใช่เป็นที่เขา มันเป็นที่ทีม มาจากการวางแผนของโค้ช อย่างน้อยดาวยิงสถิติสูงสุดของชาติก็แสดงให้เห็นว่าขอโอกาสเพียงหนเดียวก็ส่งลูกบอลไปซุกก้นตาข่ายได้

สำหรับตำแหน่งกองหน้าแล้วเรื่องอะไรก็ฝึกกันได้ยกเว้นสัญชาติญาณ

5.บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ    

บางทีนี่คือทางออกสุดท้าย ก็ทำไงได้จะให้ปลดเซาธ์เกตกลางคันก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องรอจนกว่าจบยูโรซะก่อน เชื่อว่าถ้าไปไม่ถึงฝั่งก็คงไม่กล้าอยู่ต่อชิงลาออกเอง

ผมเองมีความเชื่อเสมอว่าทีมจะไปเเป็นแชมป์ก็อาจไม่ต้องเล่นดีทุกเกมในบอลทัวร์นาเมนต์ ยกตัวอย่างอาร์เจนติน่าตอน เวิล์ด คัพ ที่กาตาร์ ซึ่งเริ่มต้นแพ้ซาอุฯ อย่างงี้ ย้อนไปใน ยูโร2016 ทาง โปรตุเกส เองก็หืดจับในการเข้ารอบน็อกเอาต์

ใช่ บางทีครับ บางที

(เอาสองมือพนมกันยกขึ้นฟ้า)    

"ไก่ป่า"......