สเปน โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในแมตช์เฉือน อิตาลี 1-0 ศึกยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัด 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยพวกเขาแสดงให้เห็นถึงเกมรุกที่สุดอันตราย และเกมรับที่เหนียวแน่น ที่สำคัญบรรดาแข้งดาวรุ่งต่างโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และจัดการกับทัพ "อัซซูร์รี่" ที่ได้ชื่อว่ามีเกมรับเหนียวแน่นจนเปื่อยยุ่ย สิ่งเดียวที่ทัพ "กระทิงดุ" ทำได้ไม่ดีก็คือการจบสกอร์ ถ้าหากพวกเขาพัฒนาจุดนี้ โอกาสที่จะได้ก้าวไปถึงแชมป์ยูโรก็มีลุ้นเลยทีเดียว
1. เหนือกว่าตลอดทั้งเกม
สเปน แสดงให้โลกได้เห็นแล้วว่าใครควรเป็นทีมเต็ง 1 ในศึกยูโร 2024 ตัวจริง โดยฟอร์มของพวกเขาในการปะทะกับ อิตาลี ต้องบอกเลยว่าเหนือกว่าแชมป์เก่าตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกจนเสียงนกหวีดสุดท้ายของตุลาการสนาม
ทัพ "กระทิงดุ" ต้องพบกับชาติที่ได้ชื่อว่ามีเกมรับที่เหนียวแน่นที่สุดในโลก แต่พวกเขาสามารถสร้างสรรค์เกมได้อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสในการจบสกอร์หลายครั้งหลายหน ซึ่งถ้าหากไม่ได้ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เซฟจนมือระวิง งานนี้บอกเลยว่าสกอร์ไม่ใช่แค่ลูกเดียวแน่นอน
เกมนี้สิ่งเดียวที่ สเปน ทำได้ไม่ดีก็คือจังหวะสุดท้ายในการจบสกอร์ เพราะถ้าหากไม่ได้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ทำเข้าประตูตัวเอง ทัพ "กระทิงดุ" อาจไม่ได้สามคะแนนสำคัญนี้
ดังนั้นสิ่งที่ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ จำเป็นต้องติวเข้มลูกทีมก็คือความเด็ดขาดในการสังหารคู่แข่ง เพราะถ้าสร้างโอกาสได้มากมายขนาดนี้ แต่ยิงประตูไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
2. เกมรับ อิตาลี ไม่ได้แกร่งเหมือนเดิม
ทัพ "อัซซร์รี่" ชุดคว้าแชมป์ยูโร 2020 ประสบความสำเร็จจากการสร้างเกมรับที่แข็งแกร่ง โดยมีคู่เซนเตอร์แบ็กอย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ที่สวมบทแก่นหลักในแดนหลังของทีม
ปัจจุบัน อิตาลี ไม่มี 2 ปราการเหล็กอีกแล้ว และนั่นทำให้พวกเขาต้องเจอบททดสอบเยอะมากในช่วงที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า ยอดทีมแห่งดินแดนมะกะโรนี ไม่สามารถต้านทานเกมบุกของ สเปน ได้เลย
ช่วงครึ่งแรกพวกเขาโชคดีมากๆ ที่ไม่เสียประตู ขณะที่ครึ่งหลังสถานการณ์ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิม แต่ที่โชคร้ายกว่านั้นก็คือ คาลาฟิออรี่ ดันดวงแตกทำเข้าประตูตัวเอง และเป็นประตูทองสำหรับ สเปน
แน่นอนว่าความพ่ายแพ้ของแชมป์เก่าในแมตช์นี้ถือว่ายุติธรรมแล้ว เพราะพวกเขาต่อกรกับ สเปน ไม่ได้เลย ดังนั้นในแมตช์สุดท้ายของ กลุ่ม บี ปะทะ โครเอเชีย กุนซือ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ต้องพยายามสร้างเกมรับให้ดีขึ้นกว่านี้ ขณะเดียวกันต้องวางแท็กติกเพื่อให้เกมรุกได้สร้างสรรค์โอกาสในการจบสกอร์ด้วย
3. ส่วนผสมที่ลงตัวของ สเปน
ขณะที่ สเปน มีนักเตะที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนอยู่ในทีม อาทิเช่น อายเมอริค ลาปอร์กต์, โรดรี้ และ อัลบาโร่ โมราต้า แต่สำหรับชัยชนะในเกมนี้ต้องให้เครดิตเหล่าบรรดาแข้งดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน
ไม่ว่าจะเป็น นิโก้ วิลเลี่ยมส์, เปดรี้ และ ลามีน ยามาล แสดงให้โลกได้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นแข้งอายุน้อยร้อยล้านของจริง ฟอร์มของเหล่าแข้งวัยละอ่อนไม่ว่าจะเป็นความสามารถเฉพาะ และการประสานงานกับทีม ถือว่าสมบูรณ์แบบมากๆ
นักเตะอนาคตไกลเหล่านี้ สามารถเล่นงาน อิตาลี ได้อยู่หมัด ยิ่งไปกว่านั้นฟอร์มโดยรวมของ สเปน ถือว่าเพอร์เฟกต์จริงๆ ซึ่งต้องขอบคุณ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ที่สามารถผสมผสานแข้งยังบลัด กับแข้งประสบการณ์ ได้อย่างลงตัว
การไล่กดดันจน อิตาลี เล่นไม่ออก และการครองเกมได้ทั้งหมด นำไปสู่การได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ยิ่งไปกว่านั้น สเปน สามารถปิดโอกาสคู่แข่งไม่ให้ยิงตีเสมอ นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทั้งเกมรุกที่อันตราย และเกมรับที่เหนียวแน่น
4. ฟอร์มของ วิลเลี่ยมส์ ทำลิเวอร์พูลตาลุกวาว
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการตัวมาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยฟอร์มของนักเตะเป็นการส่งข้อความไปยัง "หงส์แดง" ว่าถ้าหากติดต่อเข้ามาช้า อาจพลาดได้ตัวไปเสริมแกร่ง
ปีกจอมพลิ้ว แอธเลติก บิลเบา โชว์ลีลากระชากลากเลื้อยจนทำให้แนวรับ "อัซซูร์รี่" ปั่นป่วนตลอด และทุกครั้งที่นักเตะได้บอลก็ใช้ความเร็วและความคล่องตัวในการกระชากบอลทะลุเข้าไปในพื้นที่อันตราย
สตาร์วัย 21 ปี มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับประตูชัยของทีม เพราะมันเริ่มต้นมาจากการเปิดบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายของเขา ก่อนที่ คาลาฟิออรี่ จะดวงแตกทำบอลเข้าประตูตัวเอง
จะว่าไปแล้วผลงานโดยรวมในเกมนี้ของ วิลเลี่ยมส์ โดดเด่นมากๆ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ฉะนั้นถ้า "หงส์แดง" อยากได้นักเตะ คงต้องรีบดำเนินการเป็นการด่วน ไม่งั้นอาจมีทีมยักษ์ใหญ่เล็งกระชากตัวหลังจบยูโรแน่ๆ
5. แชมป์กลุ่มอย่างสง่าผ่าเผย
สเปน กลายเป็นทีมแรกที่เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม บี หลังจากจัดการดับซ่า อิตาลี ในเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พวกเขาน่าจะได้รับการยกย่องให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้แชมป์ยูโรบนแผ่นดินไส้กรอก
ทัพ "กระทิงดุ" โชว์ฟอร์มได้อย่างดุดันตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ ด้วยการไล่ต้อน โครเอเชีย แบบสบายเกือก 3-0 จากนั้นก็ชนะ อิตาลี 1-0 แม้สกอร์จะน้อยนิด แต่รูปเกมเหนือกว่าบานเบอะ
ตอนนี้พวกเขาเก็บ 6 แต้มเต็มพร้อมกับตำแหน่งแชมป์กลุ่มเรียบร้อยแล้ว ที่เด็ดว่านั้นก็คือทีมซัดไป 4 ประตู และไม่เสียประตูเลย นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า สเปน ชุดนี้มีความสมดุลทั้งเกมรับและรุกจริงๆ
สำหรับแมตช์สุดท้ายปะทะ แอลเบเนีย แน่นอนว่าด้วยชื่อชั้นขุมกำลังของทีม และระบบการเล่น พวกเขาแกร่งกว่าเยอะ แต่คงไม่มีเรื่องความประมาท กระนั้นก็คงไม่ส่งตัวหลักลงสนาม และเป็นโอกาสดีที่จะให้ตัวสำรองได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย และโชว์ของ
-ทอมเม้ง-