เรียกได้ว่าไม่เสียหน้ากับการเป็นเจ้าภาพ สำหรับทีมชาติเยอรมนี หลังจากพวกเขาเอาชนะ ฮังการี 2-0 ในเกม ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ มื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนทำให้ได้ตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว
เมื่อเจ้าภาพออกสตาร์ตด้วยการเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัดแรกแล้วนั้น มันก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนเชื่อมากขึ้นว่า เยอรมนี มีโอกาสสูงที่จะไปถึงตำแหน่งแชมป์
ที่จริงนี่นับเป็นครั้งที่ 5 ที่เจ้าภาพในศึก ยูโร เก็บชัยได้ในทั้ง 2 นัดแรก ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนดูกันว่า 4 หนก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในครั้งไหนบ้าง และสุดท้ายแล้วเจ้าภาพเหล่านั้นได้ชูถ้วยหรือไม่ แต่บอกก่อนว่าเราจะไม่ขอนับ ยูโร 2020 ที่มีหลายชาติเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
- ยูโร 1964
นั่นคือการแข่ง ยูโร ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ โดยแข่งกันที่ สเปน ซึ่งสมัยนั้นยังใช้ระบบที่มีทีมในรอบสุดท้ายแค่ 4 ทีมเท่านั้น ทำให้ชัยชนะทั้ง 2 นัดของ สเปน ส่งผลให้พวกเขาได้แชมป์ไปครอง โดยแบ่งเป็นการชนะ ฮังการี 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบรองชนะเลิศ กับการทุบ สหภาพโซเวีย 2-1 ในนัดชิงดำ
- ยูโร 1984
เจ้าภาพในครั้งนั้นคือ ฝรั่งเศส โดยหนนี้มีทีมที่ได้เล่นรอบสุดท้าย 8 ทีม และเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งทัพ "เลส์ เบลอส์" ก็ประเดิมด้วยการชนะ เดนมาร์ก 1-0 ตามด้วยเกมกับ เบลเยียม ที่พวกเขาถล่มไปแบบขาดลอย 5-0
ฝรั่งเศส ปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเฉือน ยูโกสลาเวีย 3-2 ก่อนที่ในรอบรองชนะเลิศพวกเขาจะชนะ โปรตุเกส 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ ฝรั่งเศส เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และพวกเขาก็ทำให้เหล่าแฟนบอลเจ้าถิ่นมีความสุขเมื่อชนะ สเปน ไปได้ 2-0
- ยูโร 2000
เบลเยียม กับ เนเธอร์แลนด์ส เป็นเจ้าภาพร่วมกันในรายการดังกล่าว ทำให้มันถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ศึก ยูโร มีชาติเป็นเจ้าภาพมากกว่า 1 ชาติ และ เนเธอร์แลนด์ส ก็ใช้ประโยชน์จากความเป็นเจ้าภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อเก็บได้ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดแรก จากการชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 และไล่ต้อน เดนมาร์ก 3-0
ขนาดนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เนเธอร์แลนด์ส ยังสามารถชนะ ฝรั่งเศส 3-2 ได้เลย และในรอบก่อนรองชนะเลิศพวกเขาก็ถล่ม ยูโกสลาเวีย ได้ถึง 6-1 น่าเศร้าที่พวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะในรอบรองชนะเลิศไปแพ้ อิตาลี ในช่วงดวลจุดโทษ หลังจากจบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0
- ยูโร 2016
ฝรั่งเศส กลับมาเป็นเจ้าภาพศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และพวกเขาก็ออกสตาร์ตด้วยการชนะ โรมาเนีย 2-1 ตามด้วยการคว้าชัยเหนือ แอลเบเนีย 2-0
ทีมของกุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็อง ปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 ขณะที่ในรอบน็อกเอาต์พวกเขาผ่านคู่แข่งได้ทั้งมด ไม่ว่าจะเป็นการชนะ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย, พิชิต ไอซ์แลนด์ 5-2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และทุบ เยอรมนี 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ แต่สุดท้าย ฝรั่งเศส อดได้แชมป์ต่อหน้าแฟนบอลในบ้านเพราะไปแพ้ โปรตุเกส 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบชิงชนะเลิศ
สรุปแล้วจากทั้งหมด 4 ครั้งก่อนหน้านี้นั้น เจ้าภาพที่เก็บชัยได้ทั้ง 2 นัดแรกสามารถไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 3 ครั้งเลยทีเดียว แถมยังได้แชมป์ไปอีก 2 หนด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าบทสรุปของ เยอรมนี จะเป็นยังไง
- เด็กเกร็ดบอล -