ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นแดนเบียร์ วันพุธ 19 มิถุนายน และข้าพเจ้ากำลังเล่นเน็ตฟรี ลื่นปรื้ด ลื่นปรื้ด อยู่บนขบวนหนอนเหล็ก แบบไฮสปีด ความเร็วสูงสุด ICE 917 ปลายทาง มึนเช่น , แต่ใครคนนี้ ขอก้าวขาลงแค่สถานี ชตุ๊ทการ์ท เหมือนกับคนส่วนใหญ่นะฮะ นะฮะ
ใช่แล้ว เป้าหมาย .. แม็ตช์เจ้าภาพ เยอรมัน ใส่กับ ฮังการี ซึ่งพี่ช่อคูณ - (ท่านนายพลแห่งกองทัพอากาศ) เจษฎา วิจารณ์ ปรมาจารย์ด้านฟุตบอลเยอรมันแห่งสยามประเทศ ให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่ตรวจตราความเรียบร้อยคืนก่อนแข่ง ดันไปเจอรังผึ้ง บริเวณแผ่นป้ายโฆษณาดิจิทัลขอบสนามจุดหนึ่ง —- แม้จะให้ ดับเพลิง มาเคลียร์เรียบร้อย แต่สมัยวัยเด็ก โดนเล่นงานบ่อย อดเสียวไม่ได้เหมือนกันหนอ
ขบวนเร็วสุด จาก เคิล์น (โคโลญจน์) ซึ่งต้องมาเริ่มต้นที่สถานีรถไฟรอง Koln Messe/Deutz ข้ามแม่น้ำไรน์มาอีกฝั่ง มุ่งหน้าไปยังเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับ 6 ของเยอรมัน, ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเน็คคาร์ และเป็นแหล่งกำเนิดของรถยนต์ บริษัทรถยนต์หลายเจ้าตั้งสำนักงานใหญ่กันที่นั่น แค่ 2 ชั่วโมง 9 นาที ถือว่าเร็วมาก ถ้าเทียบกับระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร
ความเร็วตอนนี้ แหงนหน้ามองจอที่อยู่เพดานสักพัก ขยับขึ้นลงระหว่าง 284 - 301 กม. ต่อชั่วโมง แต่เราก็รู้สึกนั่งสบายๆ นะครับ แถมเอาแล็บท็อปขึ้นมาพิมพ์โน่น พิมพ์นี่ ดูสบายกว่า รถไฟในอังกฤษ ยังงัยไม่รู้
นั่นเลย อยากจะเอาเรื่องเบาๆ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นกับแกล้ม ระหว่างติดตามศึก ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ก็แล้วกัน ….
1.)เน็ตฟรีที่ใช้ได้จริง บนรถไฟ และในเมือง
ต้องระบุว่า ใช้จริงด้วยสิ เพราะในอังกฤษนั้น คุณขึ้นรถไฟจากลอนดอน ขึ้นไปดูบอลที่ แมนเชสเตอร์ / ลิเวอร์พูล ซึ่งเมื่อก่อนเป็นของ เวอร์จิ้น เทรนส์ (เจ้าของคือ ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่มีสีสันมาก มีเกาะส่วนตัวอยู่) หรือปัจจุบัน เปลี่ยนมาเป็นของ อาแวนติ, บริษัทรถไฟจากอิตาลีเข้ามาเทคโอเวอร์ แต่ก็ร่วมหุ้นกับบริษัทแถวอังกฤษด้วย การบอกว่ามี ไวไฟ บริการบนรถไฟในชั้นเฟิร์สท์ คลาส นั้น เป็นการโกหกหลอกหลวงทั้งเพ — ใช้ไม่ได้จริงครับ
แต่รถไฟเยอรมัน ไม่ใช่แบบนั้น นั่งตู้ธรรมดา ตู้ 2nd class แบบผม ก็ใช้เน็ตฟรีได้
ส่วนคุณไก่ป่า ตอนเช้าชอบไปเขียนงานร้านกาแฟ ก็บอกว่า ใช้เน็ตของเมืองโคโลญจน์ ลื่นปรี้ดเลย
เพื่อนๆ โดยเฉพาะสายหงส์ มาดูบอลที่ ลิเวอร์พูล กัน เดินอยู่ในเมือง อาจหงุดหงิด ซื้อซิมท้องถิ่น EE ที่ว่าเหมาะกับเมืองนี้ก็แล้ว หรือ O2, Three ปรากฎไม่เสถียรทั้งนั้น
ที่โคโลญจน์ หรือเมืองอื่น น่าจะถูกจริตกับคนไทยกว่าครับ เพราะเวลาเรามีความสุข ได้มาต่างประเทศ อยากให้โลกรู้ด้วย
ผมก็คนหนึ่งหล่ะครับ ฮ่าๆ … เพียงแต่ทุกอย่างมีทั้งแง่บวก แง่ลบ , คุณใช้เน็ตสาธารณะเยอะ จะกลัวโจรไซเบอร์ หรือเปล่า หล่ะ?
2.อาชีพพิเศษ : แป๊ะขายขวด
ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในเมือง และโดยเฉพาะกับตามสถานีรถไฟใหญ่ ลามไปจนถึงที่สนามบอล มีการไล่เก็บขวดน้ำพลาสติก และขวดเบียร์ กันเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ
อย่างวันที่นั่ง อู-บาห์น จากสนาม อัล์ฟ ชาลเก้ เข้าเมือง มีหนุ่มกำยำท่านหนึ่ง ใบหน้าระรื่นกับการแบกถุงดำ (ถุงขยะ) ใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยขวดเบียร์สารพัด แล้วยังมีถุงเล็กอีกใบ
แฟนบอลชวนคุย หนุ่มคนนั้นยิ้มและใจดีด้วย ยื่นแก้วเบียร์ ที่เค้าขายในสนามแข่งขันยูโร หนนี้ เป็นลายที่มีชื่อสังเวียนครบทั้ง 10 สนาม สวยดีเหมือนกัน ให้แฟนบอลสองใบเลย, สงสัยคืนนั้น ธุรกิจ “เก็บแก้ว เก็บขวด” จะทะลุไปมาก
ไม่ได้ดูแคลนอะไรกับเรื่องแบบนี้นะครับ ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน ดีกว่าพวกโจร, ขโมยเยอะ
มายุโรปนี่ ตามรีเซฟชั่นโรงแรม ระวังโจรแต่งตัวดูดี มานั่งมั่วในล็อบบี้ หรือเดินตามถนน ถ้ามีกลุ่มเด็ก ผู้หญิง ระแวงไว้ก่อนดี ใครคนนี้เจอเองที่เวนิส เป็นผู้หญิงท้องด้วยนะครับ (ไม่อยากยุ่งกับสุภาพสตรีเลย แต่นาทีนั้น ก็ต้องเอากระเป๋าตังค์ของแขกที่โดนล้วง คืนมาให้ได้ เพราะมั่นใจมากว่า เธอนั่นแหล่ะ!)
3.)ซอสเซส เหมือนกัน แต่ซอสเซส ไม่เหมือนกัน
โอเคหล่ะ วัฒนธรรมการใช้ชีวิต การกินของแต่ละชาติ มีความแตกต่างกัน
แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า คนไทยมี “รสลิ้น” ที่ดี ไม่ว่า เราจะมีเงินในกระเป๋ามากน้อยต่างกันอย่างไร ก็จะชอบถวิลหาของอร่อยกันเสมอ ซึ่งมันคือความสุขลำดับต้นๆ ของการมีชีวิตอยู่ ..
หากเหมือนกับที่คิดมาตลอดว่า คนอังกฤษดื่มกาแฟจืดชืด สั่ง เอสเปรสโซ่ ร้านส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยจะเป็นเรื่อง ทำไมไม่ดื่มแบบคนอิตาเลี่ยน หรือแม้แต่หลายชาติในยุโรป ฝรั่งเศส, สเปน
ไส้กรอก นี่ก็เหมือนกัน …
คุณเข้าเวมบลีย์ สเตเดี้ยม กินฮ็อต ดีอก ชิ้นละเป็น 10 ปอนด์ รสชาติพอได้แต่เนื้อก็เหลว ไม่รู้ผสมแป้งเยอะขนาดไหน หากตามสถานีรถไฟในเยอรมัน อย่างที่ โคโลญจน์ คุณสามารถสั่ง Bratwurst ในราคา 3.60 ยูโร, หรือที่ผมชอบมาก Currywurst ชื่อตรงๆ ตัวเลย ไส้กรอกหมู หรืออาจจะผสมเนื้อสัตว์อื่น ราดซอสมะเขือเทศปรุงรส แล้วโรยด้วยผงกระหรี่ เครื่องเทศ ให้แบงค์ 5 ยูโร มีทอน ในร้านโปรด Meister Bock ล้วนแล้วแต่เป็นมื้ออร่อยแบบ 1 อิ่ม ทั้งนั้นครับ
4.) ในอังกฤษ ถือกระป๋องเบียร์ ที่นี่ ถือเป็นขวด โนพร็อมแพรม!
แปลกใจในวันแรกของทัวร์นาเมนต์ที่มิวนิค แฟนบอลสก๊อตแลนด์ ถือขวดเบียร์ที่ไม่ใช่ “ขวดเล็ก” ด้วยนะ .. เดินเพ่นพ่านแถว จัตุรัสดัง มาเรียนพลัตซ์ , ตามโบสถ์หัวหอม / โบสถ์แม่พระ Frauenkirche, หรือบางครั้งก็เรียก อาสนวิหารแห่งมิวนิค, ตามสถานีรถไฟกลาง มึนเช่น เฮ้าท์บาห์นฮอฟ
ตั้งคำถามไว้ก่อน ถ้าหากมีเรื่องแล้ว ขวดเบียร์นี่ เป็นอาวุธชั้นดีเลยนะนั่น ..
หากผ่านไปจะเกือบสัปดาห์ของยูโร 2024 ชินตาแล้วครับ เหตุการณ์กระทบกระทั่งของแฟนบอล พอให้ได้ยินบ้าง เซอร์เบียกับอังกฤษ อะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องใหญ่
ไม่รู้มันจะสะท้อนด้วยหรือเปล่าว่า แฟนบอลเยอรมันน่ารักกว่า ควบคุมพฤติกรรมได้ดีกว่า
อย่างฟุตบอลอังกฤษ ห้ามถือแก้วเบียร์ เข้าไปนั่งชมเกมที่ม้านั่งบนอัฒจันทร์ แต่ที่นี่ .. เชิญสนุกกันได้ตามสะดวกครับ
นี่สิ “เมืองเบียร์” ของแทร่ !....
5.)ฟุตบอล ของทุกคนที่แท้ทรู
-ปกติไม่มีฟุตบอล เยอรมันก็มีอะไรเชิญชวนให้ทุกคนมาเที่ยวได้อยู่แล้ว ยิ่งใครคนนี้ปักหลักเมืองเคิล์น (โคโลญจน์) เห็น Kolner Dom หรือเรียกแบบคนอังกฤษ “โคโลญจน์ คาธีดราล” ทุกวัน ไม่มีเบื่อครับ เอานะ .. สำหรับใครคนนี้ โดมแห่งนี้ คือมหาวิหารในดวงใจ ไม่แพ้ที่ใดในโลกหล่ะ
-ไปบอลโลกที่กาตาร์ ดื่มในที่สาธารณะก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ใช่ฟุตบอลของทุกคนแล้ว (บอลกับเบียร์ คือของคู่กัน ฉันท์ใดก็ฉันท์ใด) , ครั้นขึ้นเมโทร ก็โดนแซงคิว ยื้อแย่งกันตลอด ขนาดแม็ตช์ชิง ขึ้นเมโทร ใจกลางโดฮา ไปสนาม ยังอยากจะขอบคุณสวรรค์ ที่เอาตัวรอดมาได้ แม้จะเจ็บตัวนิดหน่อย
ที่นี่ ขนาดช่วงทัวร์นาเมนต์ ยังรู้จักให้จังหวะกัน ใครมาก่อนหลัง ถึงแม้มันใช้ไม่ได้ในช่วงใกล้สนาม หรือหลังเกมก็เหอะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
-เราจะเห็นว่า ไม่ใช่แค่แฟนสก๊อตแลนด์ , แอลเบเนีย ที่มาช่วยสร้างสีสันในงานนี้ ชาติอื่นมีแข่งเมื่อไหร่ ก็เหมือนจะต้องเอ่ยชมอยู่เรื่อย นั่นก็เพราะว่า เยอรมันมาง่าย การเดินทางโดยรถไฟไปเมืองต่างๆ สะดวกมาก ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องบิน
แฟนบอลเอาแค่ แครี่แบ๊ก ใบเล็กๆ ลากกัน ไปไหนก็คล่องตัว กางเกงในกลับหน้า กลับหลังไม่ต้องสน (อันนี้คิดเอง ฮ่า) ทีมตกรอบเมื่อไหร่ค่อยบินกลับบ้าน
แต่ชาติหนึ่งที่ไม่อยากนับว่า เป็นพวกต่างชาติ ก็คือ ตุรเคีย ฮะ , อยู่ในเยอรมัน เยอะเหลือเกิน อย่างไปชตุ๊ทการ์ท นี่ ลองเช็คดูว่า คนฮังการี ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ มีประมาณไหนกัน? ปรากฎว่า น้อยครับ ต่างชาติที่นำมาเป็นอันดับแรก ก็คนเติร์ก นั่นแหล่ะ
สุดท้าย จะเป็นประเทศที่น่ามาเยือนสำหรับทุกคนอย่างไรก็ตาม … ให้ท่องไว้ว่า
ฝรั่งเค้าแต่งตัวเรียบง่าย ไม่ได้ใส่แบรนด์เนมหราทั้งตัว และเลือก สีสด, เสื้อผ้า-กระเป๋า สีสันฉูดฉาด หรือรุ่นแพ้งแพง หายาก เพื่อลงรูปให้คนเห็น
ฉะนั้น ถ้ามาของหายหรือโดนปล้น โดนขโมย ในยุโรป ไม่ว่าประเทศไหน อย่าไปโทษใครเลยครับ และจำไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้สนใจคดีแบบนี้ แจ้งความไปก็เท่านั้น !!!
ลิตเติ้ลโจ