ทางซ้ายมือของเพรสบ็อกซ์เป็นกลุ่มกองเชียร์สโลวาเกียที่ขนกันมาเยอรมันหลายหมื่นชีวิต พวกเขาเป็นชาติเล็กๆที่มีประชากรประมาณห้าล้านเศษ ก็เพิ่ง 30ปี มานี้เองที่แยกตัวออกเป็นอิสรภาพ
ในหลายช่วงของเกมที่กำลังเข้มข้นก็มีเสียงที่เปล่งออกมาอย่างพร้อมเพียง ผมฟังไม่ออกแน่แต่โชคดีที่ข้างๆมีนักข่าวสายเลือดสโลวักช่วยแปลออกมา
"We are here at home"
ใช่ครับ มันเป็นการเหน็บแนมไปยังอีกฝั่งว่าทำไมพวกคุณเงียบกันจัง? นี่มันจึงเหมือนกับว่าพวกเราได้เล่นในบ้านตัวเอง
ย้อนไปในประวัติศาสตร์ยูโรก็ไม่มีแล้วที่แมตช์ไหนจะล็อคพังเท่านี้ ทั้งสองฝ่ายมีอันดับฟีฟ่าห่างกันถึง 45 อันดับ (เบลเยี่ยมอันดับ3 สโลวาเกียอันดับ48) แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว นี่คือฟุตบอล เจ้าลูกกลมๆที่ไม่เคยออกแบบได้
ถึงทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปชุดนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ายุคโกลเด้น เจเนอเรชั่นที่ตอนนั้นขุมกำลังแน่นทั่วแผ่น หากอย่างน้อยก็ยังนำมาโดย เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, เฌเรมี่ โดกู, เลอันโดร ทรอสซาร์, อมาดู โอนาน่า ไปจนถึงตัวสำรองอย่าง ยูริ เตเลม็องส์
ภาพน่ารักที่ได้จากเกมเป็นกองเชียร์สองฝ่ายทั้ง เบลเยี่ยม กับ สโลวาเกีย มายืนให้ผมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ตรงกันข้ามกับ สโลวาเกีย ที่คงมีแค่นายทวาร มาร์ติน ดูบราฟก้า กับกัปตัน มิลาน สคริเนียร์ เท่านั้นที่รู้จักในวงกว้าง
ฟุตบอล...ฟุตบอล
สโลวาเกีย ทีมนี้ยังเป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยผู้เล่นสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ เอาว่าสามมิดฟิลด์ที่ลงเมื่อวันจันทร์ในสังเวียนคลาสสิคของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ก็มีอายุรวมกันปาไป 95 แล้ว หากนั่นแลกด้วยประสบการณ์ติดทีมชาติมาเกิน 200 นัด
ถามว่า เบลเยี่ยม ควรเขกกะโหลกตัวเองด้วยใช่ไหมกับความพ่ายแพ้?
คำตอบ-แน่นอน
ตลอดเกมพวกเขาสร้างโอกาสถึง 16 ครั้ง ลำพังแค่ ลูกากู คนเดียวก็มีจังหวะที่ต้องเป็นประตูถึง 3 ครั้ง มีลูกหนึ่งหลุดเดี่ยวไปแล้วแต่ดันแตะบอลแรงออกหลังไปซะงั้น ยังไม่ใช่เท่านั้นก็เหมือนกับไม่ใช่วันของหัวหอกวัยวัย31ด้วยเพราะเขาเองส่งลูกหนังไปซุกก้นตาข่ายได้แล้วถึงสองครั้งก่อนโดน VAR ริบคืนไป
พูดถึง VAR แล้วก็ต้องชื่นชมว่ายูฟ่าทำได้ดีมาก พอมีการเรียกให้ใช้วีดีโอเทคโนโลยีเข้ามาก็มีการอธิบายบนจอทันทีว่าเหตุใดถึงเปลี่ยนคำตัดสิน จุดนี้ทางพรีเมียร์ลีกควรนำไปใช้ตามเพื่อความชัดเจนกับทุกคนที่อยู่ในสนาม
สนามของ แฟร้งค์เฟิร์ต เคยมีชื่อว่า Waldstadion โดยแปลได้ว่า forest stadium!!!
นี่เป็นปัญหาใหญ่เลยของเบลเยี่ยมที่ โดเมนิโก้ เทเดสโก้ ต้องรีบแก้ไข
ตามหน้ากระดาษแล้วสี่ตัวรุกประกอบด้วย ลูกากู, เดอ บรอยน์, โดกู และ ทรอสซาร์ ย่อมไม่ได้ด้อยกว่าใครทั้งนั้น
"มันเป็นแค่หนึ่งในวันที่เราพยายามทุกอย่างแล้วแต่ก็ยิงประตูไม่ได้ ถ้าเรายังเล่นแบบนี้ต่อไปเราต้องได้ผลการแข่งขันที่ต้องการแน่"เทเดสโก้ให้สัมภาษณ์หลังเกม
เจาะลึกลงไปค่า xG(Expected Goals) ของเบลเยี่ยมสูงถึง 1.9 ส่วนสโลวาเกียนั้นแค่ 0.6 เท่านั้น
อย่างไรก็ตามต้องให้เครดิตกับผู้ชนะในทุกๆอย่างที่พวกเขาได้ทุ่มเทลงไป จากแท็กติกที่วาง 4-3-3 โดยพอตั้งรับก็ปรับเป็น 4-5-1 ก็ถือว่าปกติในเกมลูกหนังต้องมีโชคด้วยจึงทำให้สามารถรักษาสกอร์จากที่ออกนำไปตั้งแต่7นาทีแรกได้จนจบเกม
อีกจุดที่พบจากเกมนัดนี้ได้แก่ทีมใดก็ตามจะมีฐานมั่นคงได้ก็ต้องมีมิดฟิลด์หมายเลข6 (holding midfielder) ที่ยอดเยี่ยม สโลวาเกีย มีหมายเลข 22-สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า ที่ค้าแข้งกับ นาโปลี เป็นฟันเฟืองตัวสำคัญทำทุกอย่าง
ให้นึกภาพ โรดรี้ กับ แมนฯซิตี้...นั่นแหละ
"ไก่ป่า"......