เมื่อเห็นเต็งแชมป์ตัวจริงอย่าง ฝรั่งเศส เฉือนเอาชนะ ออสเตรีย ไปแบบหวุดหวิด 1-0 แล้วผมก็อยากบอกว่า...
1. ทีม "ไก่ทอง" ฝรั่งเศส มีชัยเหนือคู่แข่งด้วยสกอร์เดียวกับ อังกฤษ เมื่อคืนก่อนก็จริง แต่อัตราความบันเทิงและเริงรมย์เลือดกระฉูดของเกมแตกต่างกันอย่างลิบลับเลยทีเดียว
เพราะสปีดเกมรวดเร็วไม่ยืดยาด แถมทั้ง 2 ฝ่ายต่างจ้องจะยิงกันให้เด๊ดห่าไปข้างอย่างถึงใจพระเดชพระคุณ
2. หากดูจากจังหวะในการเข้าทำแบบเหน่งๆ ฝรั่งเศส ควรจะกระทุ้งได้มากกว่า 1 ดอกนะครับ
ปัญหาของพวกเขาคือใช้โอกาสเปลืองถึงเปลืองมาก แม้แต่ดาวถล่มตาข่ายตีนวางอันดับหนึ่งอย่าง "ท่านประธานเป้" ก็พลาดแบบไม่น่าพลาด
ยังดีที่เกมรับเหนียวแน่นมากประกอบกับเกมรุกของ ออสเตรีย ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไรจึงสามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้
3. คุณลุงราล์ฟ รังนิค เสกทีมชาติออสเตรีย ให้เล่นได้อย่างเมามันดีนักแลตามสไตล์ของตัวเอง คือวิ่งสู้ฟัดพลางบีบกดดันใส่คู่แข่งแล้วจู่โจมเร็ว
ไม่ได้เอารถบัสมาจอดขวางประตู
ทว่าด้วยคุณภาพและชาติตระกูลของผู้เล่นที่ต่ำกว่านี่แหละคือความแตกต่าง
มิหนำยังโชคไม่ดี เพราะดันทำเข้าประตูตัวเอง แถมก่อนจะเสียประตู พวกเขาควรจะได้ลูกเตะมุมแบบเห็นๆ แต่ผู้ตัดสินไม่เห็น...ซะอย่างนั้น
นั่นแหละ...จุดเปลี่ยนสำคัญ
4. มาร์เซล ซาบิตเซอร์ สวมใส่หมายเลข 9 แล้วสวมบท "จอมทัพ" ของทีมโมสาร์ตเลยนะครับ
เห็นพี่เขาเล่นแล้วก็รู้สึกเสียดายพอๆ กับน้อยใจ ทำไมตอนสวมเครื่องแบบปีศาจแดง ฟอร์มการเล่นถึงไม่โดดเด่นแบบนี้ !!!
5. ผู้เล่นของ ออสเตรีย สับตีนมากกว่า ฝรั่งเศส ก็จริง แต่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ บนวัย 33 ขวบ คนเดียวก็ซอยยิกอย่างไม่ยั้งหยุดช่วยให้ "เลส เบลอส์" รอดพ้นจากอันตรายหลายจังหวะ
ดิดิเย่ร์ เดชองส์ คิดถูกแล้วที่ดึงกลับมาติดทีมชาติอีกหน
-บอ.บู๋-