ดูอิตาลี ประเดิมที่ดอร์ทมุนด์

ใครคนนี้ก็ใจด่วน อยากจะฟันธงไปเลยว่า นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ครบเครื่อง ทั้งใน และนอกสนาม มากที่สุด เมื่อเทียบกับการจัดงานฟุตบอลโลก หรือยูโร ครั้งหลังๆ ฮะ

โอเคหล่ะ ยูโรหนก่อน มันก็โดนโควิด เล่นงาน  พยายามเดินหน้า เลื่อนแข่งมาปีนึง เข็นๆ ทุลักทุเลให้มันผ่านไป ได้แค่นั้นก็บุญโขแล้ว

ยูโรหนที่ 17 นี้ เท่าที่ตัวเองได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง ในช่วงต้นทัวร์นาเมนต์

- นอกสนาม แฟนมีความสุขกว่าบอลโลกที่ กาตาร์ แน่  ไม่ใช่แค่นั่งดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก็เน้นที่เบียร์นั่นแหล่ะ ในที่สาธารณะได้  หากเดินถือขวดกันสลอนครับ  ทั้งจัตุรัสดัง ตามถนนช็อปปิ้ง หรือขึ้นรถไฟ ตามสะดวกครับเพ่ท่าน

ขวด ครับ ขวด 

ขนาดมากกว่ากระป๋องเบียร์ แบบที่อาจเห็นวัยรุ่น อารมณ์มันได้ ถือเดินกันยามดึก

และเป็นเรื่องชินตาไปซะแล้ว กับการเห็นใครเดินผ่านพร้อมกับยกลังเบียร์ มาเผื่อมิตรสหายด้วย ซื้อยกลังกันเลยทีเดียวเชียว .. นั่งรถไฟถึงเมืองที่มีแม็ตช์ เอาแล้ว ต้องเจอการยกลังเบียร์ลงมา ซึ่งก็น่ารักนะ เมามายแต่ยังรับผิดชอบสังคม

บางคน วางลังเบียร์บนชานชาลา ที่เพิ่งก้าวขาเหยียบนั่นแหล่ะ เอา .. เอา ยังถือว่ารับผิดชอบสังคมครึ่งนึง ปล่อยให้พนักงานเก็บขยะ ได้มีอาชีพยั่งยืนต่อไป

จะว่า เบียร์เยอรมัน มันนิ่มจนดื่มยังงัยก็ไม่เมาเหรอ ?

เบียร์นะครับ ไม่ใช่น้ำชา โถ โถ ..

- ในสนาม ด้วยความที่เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำด้าน กีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว  ทุกสเตเดี้ยม ไม่ต้องทดสอบระบบอะไรใหม่มากมาย พื้นหญ้าก็เนียนกรึ้บ

อาจจะมีหยุมหยิม เช่นที่นั่งนักข่าว ยูเอฟ่า (UEFA นั่นแหล่ะ แต่ออกเสียงกระแดะนิดนึง) ในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่มีให้มา waiting list ที่สนามนั้นๆ ในวันแข่งอีกต่อไป สำหรับมีเดียคนไหนที่ไม่ได้ตั๋ว แล้วอยากมาดู,  และคนที่ได้คอนเฟิร์ม ได้ตั๋วเกมนั้น  ก็จะมีอีเมลมาแจ้งสัก 2 วันก่อนแม็ตช์ว่า ให้เข้าไปเลือกที่นั่ง มีเดีย เดสก์ ให้กับตัวเองยังงัย

ซึ่งตรงนี้ ถ้าเป็นเกมแรกอย่างที่ เวสต์ฟาเล่น สเตเดี้ยม  ทีมงานอาสาสมัครตรงนั้น ก็อาจจะงงงงบ้าง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก นักข่าวคนไหนหาที่นั่งตัวเอง ที่เลือกในแพลตฟอร์มมีเดียของยูเอฟ่า ไม่ได้ ก็ไม่ควรบินมาถึงเยอรมัน ใช่ไหม ฮ่า ฮ่า  *โควิด ทำให้แฟนบอลเปลี่ยนมาโชว์ตั๋วจากมือถือ รายการนี้ก็ต้องโหลดแอพ UEFA Tickets กัน ง่ายๆ ครับ, ส่วนนักข่าว ก็ไม่ต้องมารับบัตรที่รีเซฟชั่น หรือกดตั๋วจากเครื่อง ในมีเดีย เซ็นเตอร์ แค่ต้องมีความสัตย์ซื่อนิด เดินไปนั่งโต๊ะที่ตัวเองเลือกเอาไว้ก่อนหน้านะ อย่ามั่ว ..

และข้อดีในสนาม ที่เห็นเด่นชัดขึ้นมาก่อนเลย ก็หนีไม่พ้นเรื่องเครื่องดื่มสีทอง สีอำพัน อีกเหมือนกัน

ถือแก้วเบียร์ ออกมานั่งดื่มระหว่างชมเกมได้เลย  ไม่เหมือนบอลอังกฤษนะครับ ซึ่งอันนี้ พรีเมียร์ลีก ไม่ต้องไปเปลี่ยนตามนะ  เพราะพฤติกรรมแฟนบอลผู้ดี ในวันแม็ตช์เดย์นั้น ไม่ใช่ ผู้ดี เลยสักนิดฮะ หลายคนเมาแบบพร้อมจะมีเรื่องซะมากกว่า

ผมชอบแฟนแอลเบเนีย มาตั้งแต่ยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส และหนนี้ หลังจากแม็ตช์เปิดสนาม ได้ตื่นเต้นกับการเคลื่อนทัพทีมตาร์ตันแล้ว แอลเบเนีย ก็แสดงพลังบ้าง

ใครคนนี้ที่ปักหลัก นอนห้องเช่าตลอดทัวร์นาเมนต์ที่โคโลญจน์ (หรือ เคิล์น ถ้าจะกระแดะอีกสักคำ)  เห็นความแตกต่างของกลุ่มแฟนบอล ตามสถานีรายทางอย่าง  ดุสเซลดอร์ฟ, ดุ๊ยส์บวร์ก, มัลไฮม์, เอสเซ่น, โบคุ่ม เป็นต้องมีแฟนบอลสีแดงดำ ขึ้นมาเสริมเรื่อยๆ  *คนที่มีตั๋วชมเกม จะสามารถนั่งรถไฟท้องถิ่นฟรี 36 ชั่วโมง จาก 6 โมงเช้าวันแข่ง ไปจนถึง 18.00 น. วันรุ่งขึ้น แต่ต้องดาวน์โหลด Fan Pass จากแอพ. EURO 2024  หน่อยหนา

ใครว่าแฟนแอลเบเนีย อยู่ในรังดอร์ทมุนด์ เป็นหมื่นคน?

ใครคนนี้ มองว่าเกินฮะ 

ตรงหน้าโต๊ะนักข่าว ที่ผมเลือกนั่งแถวแรกของ เพรส บ๊อกซ์  นั่นก็สลอนครับ แถมสวมหมวกสีขาวที่ดูตลกดี แต่เป็นเทรดดิชั่น (น่าจะเรียก Qeleshe อะไรนี่แหล่ะ) ย้อนไปถึงยุคออตโตมัน โน่นเลย แบบพร้อมเพรียงมาก

เพียงวินาที 23 ของแม็ตช์ จากการทุ่มพลาดของ เฟเดริโก ดิ มาร์โก แบ๊คซ้ายจอมบุก และ เนดิม บายรามี่ ลงโทษได้อย่างเฉียบ กลายเป็นนักเตะที่ยิงไวสุดในศึกยูโร รอบสุดท้าย ยิ่งทำให้บรรยากาศการเชียร์ดุเดือดขึ้นไปใหญ่

และท้ายเกม ก็เกือบทำให้กองเชียร์แอลเบเนีย ไม่ต้องหลับต้องนอน ฉลองกันยาวต่อได้เลยหล่ะ เมื่อศูนย์หน้าตัวสำรอง เรย์ มานาจ หลุดไปยิงในเขตโทษ

คนเซฟ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ทำท่าสะใจใหญ่  ลูกนี้มันสำคัญจริงๆ  เพราะถ้าโดนตีเสมอ 2-2 หล่ะก้อ สตอรี่พูดถึงแชมป์เก่า จะเป็นไปอีกทางเลย

แต่เมื่อมันจบด้วยสกอร์ 2-1 สองบ.ใบไม้  (อเลสซานโดร) บาสโตนี่ เซ็นเตอร์แบ๊คร่างโย่งขึ้นมาโขกตีเสมอ และตามด้วย นิโกโล บาเรลล่า วิ่งเข้าอัดเต็มข้อ สะเด่าไปเลย พ่อคุณเอ๋ย เป็นคนยิงตั้งแต่ 16 นาทีแรกของเกม ซึ่งมันชวนให้คิดว่า เดี๋ยวต้องมี อีกหลายประตูในเกมนี้ แต่มันไม่ใช่ ,  นั่นก็ทำให้ ใครคนนี้ พอจะสรรเสริญเยินยอทีมของ ลูเซียโน่ สปัลเลตติ ได้อย่างที่ตั้งใจตั้งแต่จบครึ่งแรกฮะ!

1. รู้สึก โค้ชคนนี้ มีของ

ในครึ่งหลัง อิตาลีมาบุกต่อหน้าฝั่งที่ผมนั่งอยู่ และเรานั่งอยู่กลางแดน ในตำแหน่งที่ดีมาก ก็เลยได้เห็นการขึ้นเกมรุกชัดถนัดตา

เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ได้แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ จะเกาะริมเส้นขวาใกล้เราที่สุด ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ที่ยืนอยู่อีกฝั่งจะคอยหุบใน เปิดพื้นที่ให้  ดิมาร์โก แบ๊คขึ้นเติมสูงทางฝั่งซ้าย  ส่วน ดาวิดเด้ แฟรตเตซี่ ก็คอยวิ่งสอด เติมขึ้นมา  ห้องเครื่องที่คอยปักหลักก็จะเป็น จอร์จินโญ่ กับ นิโกโล บาเรลล่า

เคียซ่า มีตะบันเท้าซ้าย หลุดเสาไกลไปแบบเฉียดฉิวมากด้วย ในขณะครึ่งแรก แฟรตเตซี่ ก็น่าจะยิงประตูที่สามให้อัซซูรี่ การหลุดเข้าทำจบด้วยบอลโดนมือคีพเพอร์แล้วไปชนเสาซะ

ผมชินกับการที่ ทีมรักลิเวอร์พูล โดนแฟนโซเชี่ยลบ่นโน่น บ่นนี่ แม้ชนะ, ดังนั้นก็ไม่แปลกใจ ถ้าหากแฟนอัซซูรี่ จะโอดครวญว่า  ลุ้นเหนื่อยอีกแล้ว

เอาน่า มันไม่ได้เลวร้ายหรอก

และ แอลเบเนีย ไม่ใช่ ไม่มีอะไรเลย เดี๋ยวถ้านัดต่อไปเปลี่ยนของไร้ค่า อาร์มันโด้ โบรฮา ที่เชลซี ปล่อยให้เพื่อนบ้าน ฟูแล่ม เอาไปใช้งาน ก็ยังยิงไม่เป็น และชาวกระท่อมไม่ให้เล่นซะงั้น (ก็สมควรหล่ะ) เป็นตัวที่ดูมีอะไรอย่าง เรย์ มานาจ ที่เปลี่ยนลงมานาที 77 *เปลี่ยนเร็วกว่านี้ อิตาลีอาจจะยุ่งก็ได้ เพราะคุกคามถึงในเขตโทษได้   เพื่อนร่วมสายบี อย่าง สเปน และ โครเอเชีย ประมาทไม่ได้เหมือนกันนะ

เดี๋ยวจะหาว่า พี่ชาย อาร์เน่อ สลอต ไม่เตือน !

2. อยากได้ บาเรลล่า + คาลาฟิออรี่ เข้าแอนฟิลด์

ขอลำเอียง พูดถึงทีมรักหน่อยนะครับ ..

คือเห็นการตะบันของ นิโกโล่ บาเรลล่า ที่ยิงเมื่อไหร่ ก็การันตีผลชนะให้ อิตาลี ได้เลย นี่เป็นหนที่สิบเข้าให้แล้ว อายุ 27 ปีนิดๆ , อาจจะเกินช่วงอายุที่ทีมงาน ไมเคิ่ล เอ๊ดเวิร์ดส์ ชอบใช้เสริมทีมในอดีต แต่คลาสแบบนี้น่าสนนะ

จริงๆ นัดนี้ ผมว่าตัวเองชอบ บาเรลล่า ไม่น้อยไปกว่า เคียซ่า เลยนะครับ ถ้าตะบันเท้าซ้ายในครึ่งหลัง ลูกนั้นพุ่งเสียบเสาไกลหล่ะก้อ แซงไปยึด แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์  ตามที่ในสนามประกาศแน่นอน *ยึดแบบนี้ไว้ก่อน ..

ได้สามแต้มในนัดประเดิมนี่ ก็ต้องชมคู่เซ็นเตอร์แบ๊คด้วยครับ บาสโตนี่ นี่ ทั้งการเป็นนักเตะอินเตอร์ มิลาน และส่วนสูง ทำให้ใครคนนี้นึกถึง มาร์โก มาร์เตรัซซี่ เฉย

ยิ่งครึ่งหลัง เห็นมีการกระโดดไปกระแทกศรีษะ บอร์ฮา บ่ะเข้าให้ หรือการดึงเสื้อศูนย์หน้าตัวสำรอง ที่ลงมาแล้วมีประโยชน์ของคู่แข่ง ทำลายจังหวะ แหม่ ไอ้นี่มันครบเครื่องเหมือนกันนะ

แต่ผมอยากได้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่ต้องยืดถ่างออกมาด้านซ้ายอีกนิด เมื่อ ดิ มาร์โก คอยพุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆ

คือนอกจากเซ็นเตอร์แบ๊คหน้าใหม่ของทีมชาติอิตาลี จะดูทรงดี อายุก็แค่ 22 ปี นักเตะเท้าซ้าย, เล่นแบ๊คซ้ายได้ด้วย เพราะเริ่มมาจากจุดนั้น

สำคัญกว่านั้นคือ กองหลังจากสโมสรโบโลญญ่าก็หล่ออยู่นะ

ระยะหลังนี่ ลิเวอร์พูลซื้อตัว ไม่ได้ดูแค่ฝีเท้าครับ ลองดู ดาร์วิน นูนเญซ กับ โดมินิค โซบอสไล เป็นต้น

เขียนถึงบรรทัดนี้ สบายใจแล้ว ขอเดินไปหา Currywurst , ไส้กรอกทอด ราดซอสมะเขือเทศ โรยผงแกงกะหรี่ ของโปรดนาทีนี้หน่อยฮะ ของกินนี่ก็เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในบอลยูโรครั้งนี้ ถูกและดี มีถมไป!

-ลิตเติ้ลโจ-