"น้องหวาน" จุฑามาศ รักสัตย์ ต้านพลังหมัด หวู ยู่ นักมวยเจ้าภาพ จีน ไม่ไหวพ่ายไป 0-5 คะแนน คว้าเหรียญเงินไปครอง และ จุฑามาศ เป็นคนแรกของทัพกำปั้นไทย ที่คว้าโควต้าโอลิมปิก2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจวยิมเนเซี่ยม เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 66 รุ่น 50 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ "น้องหวาน" จุฑามาศ รักสัตย์ เจอกับ หวู ยู่ นักมวยเจ้าภาพ เกมคู่นี้เป็นการชิงจังหวะสู้กัน จุฑามาศมีซ้ายนำ ส่วน หวู ยู่เปิดเกมบุกได้น่ากลัวเดินไล่ได้ลูกขยันมีหมัดชุด แลกกันสนุก จุฑามาศทำได้จริงแต่ว่ามีหมัดเดียวผิดกับ นักชกจีนต่อยเป็นชุดได้ต่อเนื่องกว่า
แม้ว่าจุฑามาศจะมาเร่งในยก 2 ต่อยได้ดีขึ้นเน้นลำตัวได้หลายครั้ง แต่ หวู ยู่ ทำแล้ววนออกข้างไม่ปะทะโดยตรง จุฑามาศต้องเร่งเดินไล่ต่อยมีหมัด1-2ตอบโต้แต่จังหวะยังเป็นรองทำไม่ต่อเนื่อง หวู่ ยู่ ยังชกได้ดีต่อยได้เป็นชุดก่อนครบยก จุฑามาศแพ้คะแนน 0-5 ได้เพียงเหรียญเงิน
สำหรับ จุฑามาศ รักสัตย์ เป็นคนแรกของทัพกำปั้นไทย ที่คว้าโควต้าโอลิมปิก2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ทาง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับ "หวาน" จุฑามาศ รักสัตย์ ที่แพ้ในรอบชิงฯ ถือว่าได้ดีแล้ว การชกสูสีต้องเอาความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไปปรับปรุง การชิงกับเจ้าภาพก็หนักหน่อย ทั้งเสียงเชียร์ และบรรยากาศอื่นๆ ทำให้ชกยาก แต่ถ้าเจอกันใหม่คิดว่าชนะได้ และมั่นใจว่าในโอลิมปิก "หวาน" มีโอกาสไปเหรียญทอง แต่ต้องไปทำการบ้าน จบเอเชียนเกมส์โค้ชต้องหารือกันว่าจะซ้อมยังไง ปรับข้อผิดพลาดจุดไหนบ้าง
ส่วน ในรายของ "เหลิม" ธิติสรรณ์ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศนั้น ทำได้สุดยอด แม้จะเจอกับเจ้าภาพเที่มีเสียงเชียร์ถล่มทลาย แต่ยังฝ่าความกดดันเอาชนะมาได้ ถือว่าทำได้ดีมาก และมีโอกาสหวังถึงเหรียญทอง ขณะที่ ใบสน ที่แพ้ อินเดีย ยังติดใจเรื่องกรรมการไปผูกเชือกรองเท้าอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นก็ไม่แน่ แต่ผลออกมาแล้ว ต้องยอมรับ แต่สำหรับ "ใบสน" ยังเชื่อว่าจะผ่านคัดเลือกไปชกโอลิมปิกได้"