อาร์แอนด์เอ หรือ องค์กรกำกับดูแลกีฬากอล์ฟระหว่างประเทศ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการเมเจอร์ ดิโอเพ่น เปิดเผยผลสำรวจด้านเศรษฐกิจชี้ว่า การแข่งขันกอล์ฟ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 151 ที่ รอยัล ลิเวอร์พูล มีเงินสะพัดสูงกว่า 187 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 8,407.52 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าถึง 35 เปอร์เซ็นต์ในการจัดแข่งขันหนก่อนที่สนามแห่งนี้
อาร์แอนด์เอ เผยว่าผลการสำรวจจาก ศูนย์วิจัยด้านอุตสาหกรรมกีฬาของมหาวิทยาลัย เชฟฟิลด์ ฮัลลัม (SIRC) ถึงตัวเลขด้านเศรษฐกิจที่มีขึ้นที่ย่าน วิร์รัล และเมือง ลิเวอร์พูล เผยว่า การแข่งขัน ดิ โอเพ่น เมื่อปีที่ผ่านมาสร้างตัวเลขประวัติศาสตร์ให้กับท้องถิ่นกว่า 43.19 ล้านปอนด์ (1,941 ล้านบาท) แค่เฉพาะที่ วีร์รัล แห่งเดียวมีเงินสะพัดกว่า 23.64 ล้านปอนด์ (1,062 ล้านบาท)
ขณะที่ YouGov Sport หน่วยงานวิจัยอิสระ เผยว่า ดิ โอเพ่น มีมูลค่าด้านการตลาดท้องถิ่นซึ่งรวมถึงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และแพลตฟอร์ม ดิจิตอล กว่า 144 ล้านปอนด์ (6,474.24 ล้านบาท) ตลอดทั้งทัวร์นาเม้นท์วีค รวมแล้วการแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมาสูงกว่าสถิติเดิมที่จัดแข่งขันกันที่นี้เมื่อปี 2014 ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่าการแข่งขันที่จัดขึ้นที่ รอยัล เบิร์คเดล ในปี 2017 ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ด้วย
มาร์ติน สลัมเบอร์ส ซีอีโอ ของ อาร์แอนด์เอ เผยว่า "ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเติบโตขึ้น เพราะการแข่งขันนอกจากจะมีแฟนกอล์ฟจากทั่วโลกมาร่วมการแข่งขันแล้ว ยังสร้างรายได้จากการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกมากมาย เราหวังว่าตัวเลขเหล่านี้มันจะทวีขึ้นในทุกๆปีของการแข่งขันที่เป็นประวัติศาตร์นี้"
นอกจากนี้ตัวเลขแฟนกอล์ฟที่เข้ามาชมการแข่งขันที่ ฮอยเลค ของ รอยัล ลิเวอร์พูล มากถึง 261,180 ราย มากกว่าการจัดหนก่อนที่มีแฟนเข้ามาชมกว่า 202,917 ราย และเราก็ยังคงนโยบายให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าชมการแข่งขันแบบฟรีๆ ซึ่งมีเด็กมาร่วมชมการแข่งขันกว่า 18,000 คนในทุกๆครั้ง โดยปีนี้การแข่งขันครั้งที่ 152 จะจัดแข่งขันขึ้นที่สนาม รอยัล ทรูน ระหว่างวันที่ 14-21 กรกฏาคมนี้