“ซีโฟร์” คคนะ คำยก จาก MVP “Chang Junior Cup 2017” สู่นักเตะดาวรุ่งไทยลีกคนล่าสุด

จากนั้นได้เริ่มสะสมประสบการณ์ และขัดเกลาฝีเท้าผ่านการแข่งขันต่างๆเรื่อยมา จนได้ลงแข่งขันฟุตบอล U-13 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายการ ช้าง จูเนียร์ คัพ ในปี2017 ซึ่ง “ซีโฟร์” มีส่วนช่วยในการพาทีมคว้าแชมป์ โดยถล่มคู่แข่งอย่าง ราชบุรี เอฟซี ไปถึง 7-0 และด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ทำให้คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม หรือ MVP ประจำทัวร์นาเมนต์ไปอีกหนึ่งรางวัล พร้อมตั๋วบินลัดฟ้าไปฝึกทักษะลูกหนังที่ประเทศอังกฤษกับสโมสรเอฟเวอร์ตันกว่า 10 วัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่เงินหาซื้อไม่ได้สำหรับเด็กวัย 13 ปี

หลังจากนั้น “ซีโฟร์” ได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยติดทีมชาติชุดเยาวชนตั้งแต่รุ่น 12 -18 ปีมาโดยตลอด อีกทั้งยังได้โลดแล่นในลีกอาชีพ เริ่มต้นในไทยลีก 3 กับสโมสรพราม แบงค็อก ต่อด้วยสโมสรอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด

โดยล่าสุดฤดูกาล 2022/23 เลก 2 “ซีโฟร์”ได้ขึ้นแท่นเป็นนักเตะอาชีพสโมสรยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลไทย กับสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น การบุกไปเอาชนะลำปาง เอฟซี 5-1 ในเกมไทยลีก ต่อด้วยฟุตบอลลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่บิ๊กแมตซ์ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจอกับ "แชมป์เก่า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้จะลงสนามเพียง 45 นาที แต่ก็น่าภูมิใจไม่น้อยที่ได้มีโอกาสลงสนามเกมบิ๊กแมตซ์

“มาริโอ ยูรอฟสกี้” กุนซือเมืองทอง ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ถึงคคนะว่า "เขาเป็นนักเตะที่มีสรีระและทักษะการเล่นที่หาได้ยากในแบบฉบับของฟุตบอลไทย ไม่เห็นแบบนี้มานานแล้ว และเขาก็เล่นได้ดีมาก เขายังเด็กและยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ก็มั่นใจได้เลยว่าอยู่กับผมและทีมงานของเรา จะปลุกปั้นให้เขาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยชุดใหญ่ให้ได้"

ถือเป็นความเชื่อมั่นของมาริโอ ที่มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวของ "ซีโฟร์" และเราเชื่อว่าหากเพชรได้รับการเจียระไน ก็จะส่องแสงประกาย ประดับความสำเร็จให้ "ช้างศึก" ทีมชาติไทยในอนาคต ตามรอยรุ่นพี่อัสสัมชัญธนบุรี อย่าง "โก๋อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการค้าแข้งอย่างมากมาย และได้เผชิญหน้ากันในสนามในวันนี้