บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรที่คว้าแชมป์ ไทยลีก มากที่สุดของสยามประเทศ พวกเขาคือทีมที่ทำผลงานได้ดีในทุกๆ ปี แต่ดูเหมือนว่าฤดูกาล 2023-24 ปราสาทสายฟ้ากำลังประสบพบเจอกับห้วงเวลาที่ยากลำบากพอสมควร กับการไม่ชนะใครเลย 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ดังนั้น 'SIAMSPORT' จึงขอพาคุณย้อนอดีตไปดูกันว่าก่อนหน้านี้มีซีซั่นใดบ้างที่แข้งเซราะกราวอยู่ในช่วงฟอร์มตก!?
[ 1 ] ฤดูกาล 2010
ซีซั่นแรกที่เปลี่ยนจากชื่อ การไฟฟ้า มาเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ และพวกเขาก็เริ่มท้าชิง เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังมาแรงมากๆ ในยุคนั้น เพราะกิเลนผยองอุดมไปด้วยแข้งทีมชาติไทย มากมาย
ปราสาทสายฟ้าเปิดฤดูกาลด้วยผลงานเจิดจรัสกับการถล่ม สมุทรสงคราม เอฟซี ไป 3-1 ทว่าอีก 4 เกม ถัดมา ยอดทีมแห่งดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือกลับเสมอรวด ทำแต้มหล่นหายไปเพียบ
แม้ว่าปีนั้นพวกเขาจะแพ้เพียงนัดเดียวตลอดทั้งซีซั่น แต่ผลเสมอถึง 12 แมตช์ จาก 30 เกม ที่ลงชิงชัย ก็ไม่อาจทำให้ บุรีรัมย์ ไล่ล่าแชมป์ได้สำเร็จ สุดท้ายเลยจบด้วยการเป็นอันดับ 2 รองจาก เมืองทอง
ไทยลีก: รองแชมป์
เอฟเอ คัพ: รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ลีก คัพ: รองแชมป์
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน
[ 2 ] ฤดูกาล 2012
บุรีรัมย์ ในฐานะแชมป์เก่าจากซีซั่น 2011 ฟอร์มหรูจัดกับการเก็บชัยชนะรวด 4 นัด อีกทั้งในถ้วยเอเชีย ปราสาทสายฟ้าก็เก็บได้ 6 คะแนนเต็มจาก 2 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการบุกไปเอาชนะ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ได้ถึงเมืองจีน อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม พอถึงเดือนเมษายน พวกเขาเครื่องสะดุด โดยเริ่มจากการบินไปเกาหลีใต้ แล้วแพ้ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่จะไม่สามารถชนะใครได้เลยรวมเป็น 5 นัดติดต่อกัน
เท่านั้นไม่พอ ช่วงปลายปี บุรีรัมย์ ก็ผลงานย่ำแย่อีกครั้ง เพราะทำได้แค่ 2 แต้ม จาก 5 เกม และนั่นส่งผลให้ท้ายที่สุดต้องเสียแชมป์ให้ เมืองทอง ส่วนตัวเองจบอันดับ 4 ของตาราง แต่ยังดีที่ได้ถ้วย เอฟเอ คัพ กับ ลีก คัพ มาเป็นรางวัลปลอบใจ
ไทยลีก: อันดับ 4
เอฟเอ คัพ: แชมป์
ลีก คัพ: แชมป์
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: รอบแบ่งกลุ่ม
[ 3 ] ฤดูกาล 2014
ซีซั่น 2013 ปราสาทสายฟ้าทวงบัลลังก์จาก เมืองทอง ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้า 'เทรเบิ้ลแชมป์' ในประเทศ เท่านั้นไม่พอ ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังทะลุถึงรอบ 8 ทีม สุดท้ายอีกต่างหาก
ทว่าปี 2014 พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลกาลได้ไม่ดีนัก เพราะแพ้รวด 4 เกม โดยแบ่งเป็นถ้วยเอเชีย 2 และ ไทยลีก อีก 2 นัด
อย่างไรก็ตาม บุรีรัมย์ ยังกลับมาได้ แม้จะมีอยู่บ้างบางแมตช์ที่ฟอร์มสะดุด แต่ถึงกระนั้นปราสาทสายฟ้าก็ประคองตัวจนป้องกันแชมป์ ไทยลีก ได้สำเร็จอีกสมัย
ไทยลีก: แชมป์
เอฟเอ คัพ: รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ลีก คัพ: รองแชมป์
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: รอบแบ่งกลุ่ม
[ 4 ] ฤดูกาล 2016
หลังจากครองความเป็นเบอร์หนึ่งของลีกมา 3 ซีซั่นซ้อน แถมในปี 2015 ยังทำ 'เทรเบิ้ลแชมป์' ได้เป็นหนที่ 2 อีกต่างหาก ดูเหมือนว่า บุรีรัมย์ จะไร้เทียมทานจริงๆ เพราะหาคู่ต่อกรในประเทศได้ยากยิ่ง
ทว่าในฤดูกาล 2016 ถือเป็นปีที่ปราสาทสายฟ้าฟอร์มย่ำแย่มากๆ โดยเฉพาะใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เก็บได้คะแนนเดียวเท่านั้น แถมใน ไทยลีก ก็จบอันดับ 4 แต่ยังดีหน่อยที่ได้โทรฟี่ ลีก คัพ มาเป็นรางวัลปลอบใจ
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีช่วงผลงานช็อต ชนะนัด-แพ้นัด โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่เสมอ 4 เกมรวด จนโดน เมืองทอง กับ แบงค็อก ทำแต้มหนีห่างไปไกล
ไทยลีก: อันดับ 4
เอฟเอ คัพ: รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ลีก คัพ: แชมป์ (ร่วม)
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: รอบแบ่งกลุ่ม
[ 5 ] ฤดูกาล 2019
บุรีรัมย์ ทวงแชมป์คืนจาก เมืองทอง ได้ 2 สมัย (2017 และ 2018) ทว่าพอถึงปี 2019 กลับกลายเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร เนื่องจาก 'ไร้ถ้วย' รางวัลติดมือ
พวกเขาเริ่มต้นซีซั่นได้อย่างดุดันกับชัยชนะ 4 นัดรวด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเอาชนะ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ในถ้วยเอเชีย
ทว่าอีก 4 เกม ถัดมา ปราสาทสายฟ้ากลับไร้ชัย แถมยังต้องเหนื่อยไล่ตีเสมอ ตราด เอฟซี น้องใหม่ในตอนนั้นอีกต่างหาก จากนั้นมา ผลงานของ บุรีรัมย์ ก็กระท่อนกระแท่น แต่ก็ยังประคองตัวจนลุ้นแชมป์ไปจนแมตช์สุดท้ายของฤดูกาล โดยที่ตนเองได้เปรียบกว่า เชียงราย ยูไนเต็ด เพราะถ้าชนะ เชียงใหม่ ได้ในนัดปิดฉาก ก็รับโทรฟี่ไปเลย
'ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกของฟุตบอล' ประโยคนี้ยังอมตะนิรันดิ์กาล - นัดสุดท้ายของซีซั่น 2019 พวกเขาทำได้แค่บุกไปเสมอ เชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งตกชั้นไปแล้ว 1-1 ส่งผลให้ถูกกว่างโซ้งมหาภัยปาดหน้าความแชมป์ไปครองแบบสุดเจ็บปวด
ไทยลีก: รองแชมป์
เอฟเอ คัพ: รอบรองชนะเลิศ
ลีก คัพ: รองแชมป์
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: รอบแบ่งกลุ่ม
[ 6 ] ฤดูกาล 2020-21
เหมือนว่า บุรีรัมย์ จะยังเมาหมัดกับความผิดหวังในฤดูกาล 2019 เพราะพอถึงซีซั่น 2020-21 ที่แข่งขันภายใต้โรคระบาดโควิด-19 แต่พวกเขาก็ไม่อาจทวงแชมป์คืนได้สำเร็จ
เป็นอีกปีที่ปราสาทสายฟ้าไร้ถ้วยรางวัลติดมือ โดยศึก ไทยลีก นั้นเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ทุ่มเงินมหาศาล กวาดผู้เล่นชั้นนำของประเทศมารวมตัวที่นี่ ก่อนจะคว้าโทรฟี่อันทรงเกียรติไปได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ส่วน บุรีรัมย์ นั้นมีช่วงที่ผลงานไม่ดี กับการแพ้ถึง 3 จาก 4 เกม ในลีก ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2020 แถมยังพลาดท่าคารังต่อ นครราชสีมา เอฟซี และ เมืองทอง อีกต่างหาก
ไทยลีก: รองแชมป์
เอฟเอ คัพ: รอบรองชนะเลิศ
ลีก คัพ: ไม่มีการแข่งขัน
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: รอบเพลย์-ออฟ
[ 7 ] ฤดูกาล 2022-23
การไม่ได้แชมป์ติดต่อกัน 2 ฤดูกาล ทำให้ บุรีรัมย์ เต็มไปด้วย 'ไฟแห่งความกระหาย' พวกเขามุ่งมั่นมากๆ ที่จะกลับมายืนเป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ให้ได้อีกครั้ง
นี่คือหนึ่งในซีซั่นที่ปราสาทสายฟ้าโชว์ฟอร์มได้เด็ดดวงที่สุด โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2022 ต่อถึงต้น 2023 ที่เก็บชัยได้ถึง 13 นัดซ้อน ในทุกรายการ แม้จะมีสะดุดเล็กๆ ที่ไม่ชนะใครเลย 4 เกม ก็ตาม
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ต้องกังวล เพราะสุดท้าย บุรีรัมย์ ก็เถลิงบัลลังก์ได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับเป็น 'เทรเบิ้ลแชมป์' หนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ไทยลีก: แชมป์
เอฟเอ คัพ: แชมป์
ลีก คัพ: แชมป์
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน
[ 8 ] ฤดูกาล 2023-24
ซีซั่นปัจจุบัน บุรีรัมย์ ยังคงเป็น 'เต็งหนึ่ง' ในสายตาของสื่อมวลชนทั้งประเทศ ทว่าฤดูกาลนี้ความเข้มข้นเพิ่มพูนทวีคูณด้วยการเสริมทัพที่น่าสนใจของ แบงค็อก, บีจี ปทุม และ การท่าเรือ เอฟซี ที่ต้องการจะสอยปราสาทสายฟ้าให้ลงมา
ยอดทีมแห่งแดนอีสาน เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เพราะทำได้เพียงเสมอ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง แต่หลังจากนั้นก็คืนฟอร์มเก่งกับการชนะรวด 5 เกม ในทุกรายการ
ทว่านับตั้งแต่บุกไปพ่ายแพ้ต่อ ว็องโฟเร่ต์ โกฟุ ทีมจาก เจลีก 2 ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก - ดูเหมือนว่าเครื่องจักรสีน้ำเงินจะช็อตไปดื้อๆ เพราะหลังจากนั้นก็ยังไม่ชนะใครเลย รวมเป็น 5 เกม เข้าให้แล้ว
นับถึงวินาทีนี้ สถิติของ บุรีรัมย์ กับการ 'ไร้ชัย' ติดต่อกันนานที่สุดคือจำนวน 5 แมตช์ แต่มีโอกาสไม่น้อยทีเดียวที่มันจะถูกทำลาย เพราะคู่ต่อสู้ของพวกเขาในอีก 2 นัดข้างหน้าคือ การท่าเรือ กับ เมลเบิร์น ซิตี้ ที่ต่างก็จ้องจะเล่นงานปราสาทสายฟ้า
ไทยลีก: ยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน
เอฟเอ คัพ: ยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน
ลีก คัพ: ยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก: ยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน