อีกก้าวเดียวสู่โอลิมปิก.. วันนี้ของฟุตบอลอินโดนีเซีย

พัฒนาการของฟุตบอลอินโดนีเซียเวลานี้น่าจับตามองนะครับ ทีมชุดใหญ่กำลังไปได้สวยในเวทีฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รั้งอันดับสองของกลุ่มเป็นรองแค่อิรัก ชนะเวียดนามทั้งเหย้าและเยือน ขณะที่ทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปีก็กำลังโลดแล่นที่กาตาร์

ล่าสุดพวกเขาน็อก เกาหลีใต้ เข้ารอบรองชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว

การเข้ารอบตัดเชือกในรายการชิงแชมป์เอเชียที่กำลังแข่งกันอยู่หมายความว่า อินโดนีเซีย มีโอกาสตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีสกลางปีนี้ โควต้า 3 ทีมครึ่ง (3.5 ทีม) ของเอเชียคัดเอาจากรายการนี้

ถ้าชนะในเกมต่อไปไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็น ซาอุดีอาระเบีย หรือ อุซเบกิสถาน พวกเขาจะได้ไปโอลิมปิกทันทีพ่วงด้วยการเข้าชิงเป็นเจ้าเอเชียตั้งแต่สมัยแรกที่เข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย

ถ้าแพ้ยังได้โอกาสในการชิงอันดับสาม หากเอาชนะได้ก็จะได้ไปโอลิมปิกเช่นกัน

หรือถ้ายังแพ้ในการชิงที่สามอีกก็ยังมีโอกาสสุดท้ายให้แก้ตัว นั่นคือการเตะเพลย์ออฟกับ กินี ตัวแทนจากทวีปแอฟริกา

กระนั้นไม่ว่า อินโดนีเซีย จะได้ไปโอลิมปิก ปารีส 2024 ไหมอาจไม่สำคัญเท่าทิศทางที่พวกเขากำลังเดินไป กระแสความบ้าคลั่งที่เดิมคนอินโดนีเซียก็บ้าฟุตบอลอยู่แล้วยิ่งจุดติด ด้วยผลงานเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้

นักเตะอิเหนารุ่นยู-23 ที่เพิ่งเขี่ยเกาหลีใต้ตกรอบหมาด ๆ ชุดนี้ มีถึง 14 จาก 23 คนที่ขึ้นชั้นสู่ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว

11 ตัวจริงที่ลงเล่นกับทีมโสมขาวเมื่อคืนที่ผ่านมา มีถึง 9 คนที่ติดทีมชุดใหญ่เรียบร้อย

ผู้รักษาประตู (เออร์นานโด อารี)

กองหลังตัวกลาง 2 จาก 3 คนในระบบ 3 เซนเตอร์แบ๊ก (จัสติน ฮุบเนอร์ กับ ริซกี้ ริโด กัปตันทีม)

คู่กลาง 2 คน (อีวาร์ เยนเนอร์ กับ นาธาน โท-เอ-ออน)

วิงแบ๊กฝั่งซ้าย (ปราทามา อาราน)

และตัวรุกทั้ง 3 คน (ราฟาเอล สตรุ๊ค กับ มาร์เซลิโน่ เฟอร์ดินาน หน้าต่ำ และ วิทาน ซูเลมาน กองหน้าตัวเป้า)

ริโอ ฟาห์มี วิงแบ๊กขวา กับ โคมัง เทกูห์ เซนเตอร์แบ๊กฝั่งขวาคือ 2 คนที่ยังไม่มีดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ แต่เชื่อได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นแน่โดยเฉพาะ เทกูห์ ที่ยิงไป 2 ประตูแล้วในทัวร์นาเม้นต์

อินโดนีเซียชุดนี้เล่นฟุตบอลที่รวดเร็ว ดุดัน กล้าเปิดเกมบุก แข็งแรง มีความฟิตวิ่งได้ตลอดทั้งเกม นัดล่าสุดกับเกาหลีใต้จนถึงนาที 120 แล้วยังวิ่งไล่บดนักเตะแดนโสมอยู่เลย

เกมรับดี ลูกกลางอากาศดี บอลโต้อันตราย กำลังมั่นใจเต็มที่

สถิติยิง 21-8 ของคู่นี้ถ้าไม่บอกว่าโอกาส 21 ครั้งนั้นเป็นของอินโดนีเซียเราคงคิดว่าเป็นฝั่งเกาหลีใต้.. ใช่ครับ มันเป็นของทีมการูด้า

ส่วนหนึ่งเพราะการถูกไล่ออกของ อี ยัง-จุน กองหน้าตัวสำรองเกาหลีใต้ก่อนหมดเวลา 20 นาทีด้วย แต่ในภาพรวมแล้ว อินโดนีเซีย สู้กับ เกาหลีใต้ ได้เหมือนทีมระดับเดียวกันตั้งแต่นาทีแรก

ทั้งความเร็วของเกม ความเร็วของการให้บอล ความคล่องแคล่วของนักเตะ และรูปแบบการเล่น

ทีมของกุนซือ ชิน แท-ยัง กล้าต่อบอลเข้าทำ ไม่ได้วางแผนมาเล่นเกมรับตั้งการ์ดแน่นแล้วรอโต้เหมือนทีมเป็นรอง แต่เล่นในแบบที่เป็นทีมเกรดเดียวกัน และเกมนี้ ก็เล่นได้ดีกว่าด้วย ก่อนเอาชนะได้สำเร็จด้วยการดวลจุดโทษระทึกใจฝั่งละ 12 คน

การเข้ามาของ ชิน แท-ยัง เมื่อปี 2020 หรือเมื่อสี่ปีที่แล้วคือส่วนหนึ่งของพัฒนาการนี้ อดีตกองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ได้รับมอบหมายให้ดูแลทีมชาติชุดใหญ่ ชุดยู-23 และชุดยู-20 ไปพร้อม ๆ กันรวดเดียว 3 ชุด

เมื่อปูพื้นแข็งแรงดีในระดับหนึ่งแล้วก็ปล่อยชุดยู-20 ให้ อินทรา ซาฟรี ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคทำต่อ ซาฟรีคนนี้คือคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำทีมชุดยู-23 เข้าแข่งซีเกมส์ที่กัมพูชาเมื่อปีที่แล้ว และเอาชนะทีมชาติไทยได้ในนัดชิง

สิ่งที่ ชิน แท-ยัง มองเห็นตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ารับตำแหน่งคือนักเตะอินโดนีเซียมีความมุ่งมั่น มีความดุดัน แต่ยังขาดระดับของฟุตบอลชั้นสูง และเกมรับยังมีปัญหา

เขาต้องการนักเตะที่คุณภาพถึงเกณฑ์มาเสริมโดยด่วน และได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) ที่เน้นยิ่งขึ้นกับการมองหานักเตะลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวที่เล่นฟุตบอลในต่างแดนที่สามารถเล่นให้ทีมชาติได้ซึ่งเป็นนโยบายที่เริ่มทำมาตั้งแต่ 10 ปีก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่ใช่การโอนสัญชาติ แต่เป็นการมีสิทธิ์เล่นให้ทีมชาติเพราะมีสายเลือดอินโดนีเซียอยู่ครึ่งหนึ่งผ่านทางพ่อหรือแม่ หรือหนึ่งส่วนสี่ผ่านปู่ย่าตายาย ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ยอมรับกันในระดับสากล

นิโคลัส มิเคลสัน หรือ เอราวัณ การ์นิเย่ร์ ของเราก็อยู่ในเกณฑ์นี้เหมือนกัน และเราก็ได้เห็นว่านักเตะที่เติบโตมากับสภาพแวดล้อมของฟุตบอลอาชีพในยุโรปนั้นมีความแตกต่างอย่างไร

ฟุตบอลอินโดนีเซียในยุคของ ชิน แท-ยัง มีนักเตะที่เป็นลูกครึ่งเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของทีม แต่ขณะเดียวกันก็รายล้อมด้วยนักฟุตบอลท้องถิ่นที่เกิดในประเทศ

ไม่ใช่นักเตะโอนสัญชาติอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด บางครั้งการพูดกันไปปากต่อปากและการดูถูกมองข้ามความสามารถของคู่ต่อสู้ก็ทำให้เราตาบอดมองไม่เห็นความเป็นไปของเขา

อินโดนีเซียไม่ได้จับนักเตะบราซิล อาร์เจนติน่า กานา ไนจีเรีย หรือชาติอื่น ๆ มาโอนสัญชาติเพื่อเล่นให้ทีมฟุตบอลอย่างที่ถูกพูดถึงกันสนุกปาก แต่พวกเขาสรรหาอย่างจริงจังถึงเพชรเม็ดงามที่ค้าแข้งในยุโรป

หาคนที่มีสายเลือดอินโดนีเซียอยู่ในตัว จะลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวก็ถือเป็นลูกหลานของพวกเขา หาคนที่ยินดีรับใช้แผ่นดินพ่อ แผ่นดินแม่ แผ่นดินของปู่ย่าตายาย

ในทีมชุดลุยศึก เอเอฟซี ยู-23 ที่กาตาร์รอบนี้ อินโดนีเซียมีนักเตะลูกครึ่ง/ลูกเสี้ยว 4 คน แน่นอนครับทั้ง 4 คนรับใช้ชาติในทีมชาติชุดใหญ่เรียบร้อยแล้วทั้งหมด

จัสติน ฮุบเนอร์ กองหลังตัวกลางวัย 20 ปี พ่อเป็นชาวอินโดนีเซีย แม่เป็นชาวดัตช์ เกิดที่ฮอลแลนด์ เป็นนักเตะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ เซเรโซ่ โอซาก้า ยืมตัวไปเล่น

นาธาน โท-เอ-ออน แบ๊กซ้ายและเซนเตอร์แบ๊กฝั่งซ้ายวัย 22 ปี มีเชื้ออินโดนีเซียจากฝั่งคุณตา เกิดที่เมืองร็อตเตอร์ดัม สังกัดสโมสร สวอนซี ซิตี้ ที่ปล่อยให้ ฮีเรนวีน ยืมตัว

อีวาร์ เยนเนอร์ กองกลางวัย 20 ปี คุณย่าเป็นชาวอินโดนีเซียมาจากเกาะชวา เกิดที่เมืองอูเทร็คท์ เป็นเด็กฝึกหัดของ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ขึ้นชุดใหญ่ที่ อูเทร็คท์

ราฟาเอล สตรุ๊ค ตัวรุกฝั่งซ้ายและกองหน้าวัย 21 ปี คุณยายมาจากเกาะชวา อพยพไปสุรินัม อาณานิคมของฮอลแลนด์ ก่อนจะไปลงหลักปักฐานที่ฮอลแลนด์ในเวลาต่อมา เกิดที่ฮอลแลนด์ เล่นอยู่กับทีม เดน ฮาก

ฮุบเนอร์ เยนเนอร์ และ สตรุ๊ค เข้าสู่ทีมชาติเมื่อปี 2022 ขณะที่ โท-เอ-ออน เพิ่งจะเล่นให้อินโดนีเซียปีนี้

นอกจาก 4 คนที่ว่าแล้ว อินโดนีเซียยังมีนักเตะลูกครึ่งคนอื่น ๆ อยู่ในทีมชาติชุดใหญ่อย่าง เจย์ อิดเซส กองหลังวัย 23 จากเวเนเซีย ทอม เฮย์ กองกลางวัย 29 จากฮีเรนวีน รักนาร์ โอรัตมันเกิน ปีกวัย 26 จากฟอร์ทูน่า ซิททาร์ด

เชย์น พัตตีนาม่า แบ๊กซ้ายวัย 25 อดีตเด็กปั้นอาแจ๊กซ์ มาร์ก คล็อค กองกลางวัย 31 เด็กปั้นอูเทร็คท์ จอร์ดี้ อามัต กองหลังวัย 32 เกิดที่สเปน เป็นเด็กปั้นของเอสปันญ่อล

เอลคาน แบ็กกอตต์ กองหลังวัย 21 เด็กปั้น อิปสวิช ทาวน์ คนนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เลย เป็นลูกครึ่งอังกฤษ/อินโดนีเซีย

ถ้าจะลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ อินโดนีเซียนาทีนี้ก็เหมือนทีมชาติไทยที่มีนักเตะลูกครึ่งอย่าง นิโคลัส มิเคลสัน อยู่ครึ่งทีม (ในเกมคัดบอลโลกที่ผ่านมา แท-ยัง จะส่งนักเตะลูกครึ่ง/ลูกเสี้ยวลงสนาม 5 คนในแต่ละแมตช์)

แน่นอนนโยบายที่เน้นการสรรหานักเตะลูกครึ่ง/ลูกเสี้ยวที่เกิด เติบโต และเล่นฟุตบอลอาชีพในยุโรปอาจสร้างความไม่สบายใจให้เกิดขึ้นอยู่บ้างกับโอกาสของนักฟุตบอลในประเทศ แต่สำหรับความเป็นเลิศแล้วมันคือการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ทีมชาติที่ทีมจำเป็นต้องมีเพื่อการแข่งขันกับบรรดาทีมชั้นนำของทวีป

แต่ในทางที่ควบคู่กันไป สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียที่มี เอริค ธอเฮียร์ อดีตเจ้าของสโมสร อินเตอร์ มิลาน เป็นประธานก็ยังสนับสนุนและพยายามยกระดับฟุตบอลลีกของประเทศไปด้วยกันด้วย ขณะที่เด็กท้องถิ่นมากมายก็มีนักเตะกลุ่มนี้เป็นแบบอย่างให้ตัวเองมุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าเพื่อโอกาสในวันข้างหน้าเพราะด้วยพาวเวอร์ของ ธอเฮียร์ ที่มีสายสัมพันธ์เป็นวงกว้างสามารถนำพาโอกาสเติบโตมาให้กับพวกเขาได้

นักเตะที่เป็นอัญมณีงาม ๆ รอวันเจียระไนหลายคนใช้ความสามารถเบิกทางสู่การเป็นตัวเลือกของ ชิน แท-ยัง อย่างในชุดยู-23 นี้ทั้ง ริซกี้ ริโด, ปราทามา อาราน, มาร์เซลิโน่ เฟอร์ดินาน, วิทาน ซูเลมาน และชุดใหญ่อย่าง อัสนาวี มังกูวาลัม ที่เล่นอยู่กับการท่าเรือในไทยลีกก็อยู่ในข่ายพร้อมได้รับการผลักดันทั้งสิ้น

ผลงานในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาของอินโดนีเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเข้ารับตำแหน่งของ ชิน แท-ยัง จึงน่าจับตามองเพราะทำได้ดีทั้งชุดใหญ่ชุดเล็กที่มีนักเตะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกัน

เป็นทีมชาติชุดใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อย มองเห็นพลังระเบิดที่จะพุ่งไปข้างหน้า

เป็นแชมป์กับรองแชมป์ฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์อาเซียนใน 2 สมัยหลังสุด

เป็นแชมป์ซีเกมส์หนล่าสุดและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยมา 7 สมัยติดต่อกัน (เหรียญทอง 1 สมัย เหรียญเงิน 3 สมัย เหรียญทองแดง 2 สมันย อันดับสี่ 1 สมัย)

เอเชียนเกมส์เข้ารอบน็อคเอ๊าต์ตลอด 3 ครั้งหลังสุดทั้งที่อินชอนปี 2014 (แพ้เกาหลีเหนือ) ที่จาการ์ต้า/ปาเลมบังปี 2018 (แพ้ดวลจุดโทษยูเออี) และที่หางโจวเมื่อปีที่แล้ว (แพ้ต่อเวลาพิเศษอุซเบกิสถาน)

ยู-23 ชิงแชมป์เอเชียเพิ่งเข้ามาแข่งในรอบสุดท้ายครั้งนี้เป็นสมัยแรกก็น็อกเกาหลีใต้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศชิงตั๋วไปโอลิมปิกได้เลย

หรือกับทีมชาติชุดใหญ่ก็อัด เวียดนาม ทั้งเหย้าและเยือนรั้งอันดับสองของกลุ่มในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เป็นรองเพียงแค่อิรักเท่านั้น

วันนี้ของฟุตบอลอินโดนีเซียเป็นอย่างที่เห็น พวกเขาอยู่ในระดับที่ท้าทายทวีปเอเชียแล้ว ไม่ใช่แค่ย่านอาเซียน

ความสำเร็จและทิศทางของพวกเขาย่อมเป็นแรงกระตุ้นให้ทีมร่วมภูมิภาคต้องขยับตัวตาม ต้องวางแผนอย่างละเอียด ชาญฉลาด และจริงจังเพื่อที่ไม่ให้เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็ถูกทีมการูด้าทิ้งห่างไปไกล

แน่นอนครับ หนึ่งในนั้นย่อมรวมถึงพวกเราด้วย

ตังกุย


ที่มาของภาพ : afcu23
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport