ยอดอาชา‘Delilah’ สละชีพเพื่อคู่หูให้ปลอดภัย

กีฬาขี่ม้าจึงเป็นเพียงกีฬาชนิดเดียวที่มีอุปกรณ์การแข่งขันเป็นสิ่งมีชีวิต และ “ม้า” ก็ถูกเรียกให้เป็น “นักกีฬา” ทุกครั้งที่แข่งขัน และได้รางวัล ถ้วยรางวัล เงินรางวัลจะเป็นของ “ผู้ขี่” ส่วนม้าก็จะมีรางวัลเช่นกันคือ “โบ” และ “ผ้าคลุมม้า” ที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าคุณคือ “แชมป์” 

แต่กว่าที่นักกีฬาจะหาอาชามาคู่ใจได้มิใช่หากันง่าย โดยเฉพาะม้าที่พร้อมจะนำมาลงสนามแข่งขัน ราคาก็จะสูงตามศักยภาพของม้า แต่หากซื้อม้าเด็กเพื่อมาฝึกเอง ราคาก็จะเบาลง!!!

Delilah (MaxWin All Pleasure Hero) หรือ “ดีไลลาห์” อาชาตัวใหม่ของนักขี่ม้าสาวทีมชาติไทย “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช ที่ซื้อมาเพื่อเตรียมโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” ซื้อมาเพื่อเป็นม้าอีกตัวให้เป็นทางเลือกนอกเหนือจาก “ ทีน่า” ที่ผ่านการลงสังเวียนมาอย่างโชกโชน และพากันคว้าตั๋ว “ใบประวัติศาสตร์” ให้กับวงการขี่ม้าของเมืองไทย ซิวตั๋วกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นครั้งแรก!!!

แต่ “ทีน่า” กับสังเวียนโอลิมปิกอาจจะเหนื่อยเกินไป เพราะทีน่าเป็นม้าที่กระโดดได้เพียงแค่ 130 ซม. ตอนที่ซื้อมาครั้งแรก จนระยะเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี ปรีดิ์อัญฝึกทีน่าให้กระโดดในคลาสโอลิมปิก ระดับ 5 ดาว ความสูง 160 ซม. และนั่นทำให้ทีน่ากลายเป็นอาชาที่มีมูลค่าขึ้นมาจากหลักสิบล้านมาเป็น 100 ล้านบาท!!!

ทีน่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ สองนักกีฬาฝ่าฟันอุปสรรคาต่างๆ จนพากันไปกระโดดในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้สำเร็จ และปรีดิ์อัญตั้งใจจะให้ทีน่าพักและเอา “ดีไลลาห์” ลงสนามแทนทีน่า 

แต่กว่าที่ปรีดิ์อัญจะได้ดีไลลาห์มานั้นไม่ง่ายเลย ครั้งแรกที่เจอกันเหมือน “รักแรกพบ” ถูกชะตา และอยากได้มาเป็นเจ้าของ ที่สำคัญดีไลลาห์เป็นม้ากรังด์ปรีซ์ที่สามารถกระโดดได้ 160 ซม. หากได้มาอยู่ด้วยการฝึกเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั้นน่าจะใช้เวลาไม่นาน หากเทียบกับทีน่าที่ครั้งแรกได้มากระโดดได้เพียง 130 ซม. เท่านั้น

“รักแรกพบ” ระหว่าง ปรีดิ์อัญ กับ ดีไลลาห์ ทำได้เพียงแค่ทักทาย และทำความรู้จัก เพราะยังหาข้อตกลงระหว่างกันไม่ได้ แต่ปรีดิ์อัญก็มั่นใจว่า จะต้องได้ดีไลลาห์มาเป็นคู่หูใหม่ในสักวัน และสิ่งที่หวังก็เป็นจริง เมื่อผู้สนับสนุนอย่าง MaxWin เห็นด้วยที่จะซื้อดีไลลาห์มาเพื่อเตรียมโอลิมปิก 2024

ระยะ 2 ปี ที่ดีไลลาห์กลายเป็นอาชาคู่ใจอีกตัวของปรีดิ์อัญ สองนักกีฬาต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ฝึกด้วยกันมาประมาณ 1 ปี และเริ่มพากันออกแข่ง ทีน่าแข่งเพื่อควอลิฟายโอลิมปิก ส่วนดีไลลาห์แข่งเพื่อปรับจูนให้คนกับม้าเดินไปด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

โดยเริ่มจากการแข่งขันในคลาสเล็ก 135 ซม. แข่งจนดีไลลาห์ไม่เตะเครื่อง ก็ค่อยขยับไปแข่งคลาสสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงเดือนมีนาคม 2567 ดีไลล่าห์ลงแข่งในคลาสที่ใหญ่ที่สุดของกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง คือ 5 ดาว ที่ประเทศกาตาร์ เพื่อเก็บ MER (Minimum Eligibility Requirements) จากสนามแข่งขันที่สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติกำหนดไว้ เพื่อดีไลลาห์จะมีสิทธิ์ลงแข่งใน “ปารีสเกมส์”

การแข่งขันผ่านไป 80 เปอร์เซ็นต์ ของเครื่อง และเหลืออีกไม่กี่เครื่อง สองนักกีฬาไทยก็จะกระโดดเคลียร์ราว ปรากฏว่ากลับมีเหตุไม่คาดคิดขึ้น จังหวะที่ดีไลลาห์กระโดด แต่พื้นที่ลงเท้าเกิดยุบตัวลง ดีไลลาห์เสียหลักสะดุดเครื่องและล้มลง ปรีดิ์อัญที่นั่งอยู่บนหลังดีไลลาห์ร่วงลงจากม้า แต่การล้มของดีไลลาห์เหมือนพยายามจะเซฟคู่หูให้ปลอดภัยให้มากที่สุดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้

ภาพทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ปรีดิ์อัญถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ในขณะที่ดีไลลาห์ขาหัก ถือเป็นอาการที่สาหัสที่สุดของม้า ไม่มีโอกาสที่จะรักษาให้หาย หากปล่อยไว้ก็เท่ากับทรมานม้า ทีมสัตวแพทย์ลงความเห็นทางเดียวที่จะปลดความทุกข์ทรมานของดีไลลาห์ คือ การุณยฆาต หรือ Push Down โดยทันที!!!

ดีไลลาห์จากไปอย่างสงบ โดยที่ปรีดิ์อัญไม่มีโอกาสรู้เลยว่าอาชาคู่ใจไม่อยู่แล้ว!!!

ปรีดิ์อัญรับรู้จากการไปของดีไลลาห์ หลังจากที่เดินทางกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย เพราะข้อเท้าด้านขวาหักต้องรับการผ่าตัด!!!

ทันทีที่รู้ข่าวการจากไปของดีไลลาห์ ปรีดิ์อัญร้องไห้หนักมาก ไม่คิดว่าการล้มครั้งนั้น ดีไลลาห์จะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อให้เธอบาดเจ็บน้อยที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่ปรีดิ์อัญยังมีหน้าที่และภาระต้องสานต่อให้จบ ดีไลลาห์ คือความทรงจำที่สวยงาม และคือความพยายามที่ทำร่วมกันมาตลอด 2 ปี และเมื่อเริ่มใจให้ยอมรับการสูญเสียในครั้งนี้ได้ ปรีดิ์อัญได้โพสต์ข้อความถึงดีไลลาห์ โดยมีใจความบางช่วงที่ทำให้รู้ว่าโอลิมปิกครั้งนี้ ปรีดิ์อัญจะสู้เพื่อดีไลลาห์

“บางครั้งชีวิตก็ไม่ยุติธรรม และสิ่งต่างๆ ก็เกิดขึ้นเหนือการควบคุมของเรา แต่ฉันจะสู้เหมือนที่คุณเคยทํามาตลอด ฉันจะคิดบวกและผลักดันต่อไป ฉันจะทํางานต่อไปสู่ความฝันในวัยเด็กของฉันของโอลิมปิก 2024 และฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวฉัน โดยเฉพาะคุณได้ภูมิใจในสิ่งที่เรากำลังร่วมกันทำมันขึ้นมา ในช่วงเวลาที่มืดมน เราต้องมองหาแสงสว่าง ดังนั้น เมื่อฉันมองหาแสงสว่าง ฉันจะมองหาใบหน้าของคุณ และฉันรู้ว่าฉันจะพบมัน ขอบคุณที่เป็นเธอ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ขอบคุณสําหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และไม่ต้องกังวลในตัวฉัน ฉันจะพยายามทำร่างกายให้แข็งแรงเพื่อกลับไปสู่การแข่งขันโอลิมปิก 2024 ฉันสัญญาว่าจะทำให้คุณภูมิใจ”

ความเสียใจจากการสูญเสียมันไม่ได้จางหายไปจากใจของปรีดิ์อัญ แต่ชีวิตต้องเดินต่อ รักษาตัวให้หายทันแข่ง “ปารีสเกมส์” และทำให้การแข่งขันครั้งนี้มีความหมายกับปรีดิ์อัญมากกว่าการคว้าตั๋วใบประวัติศาสตร์ แต่ทำเพื่ออาชาผู้เสียสละ “ดีไลลาห์”