"จาย"สร้างประวัติศาสตร์สองล้อลู่ไทยควอลิฟายซิวตั๋วอลป.ครั้งแรก

"จาย อังค์สุธาสาวิทย์" นักปั่นทีมชาติไทยดีกรีเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 สร้างประวัติศาสตร์ให้จักรยานไทย หลังเก็บคะแนนสะสมรั้งที่ 13 ของโลก จักรยานลู่ประเภทคีริน คว้าตั๋วลุยโอลิมปิกได้เป็นครั้งแรกของจักรยานประเภทลู่ และเป็นการคว้าตั๋วโอลิมปิก 2024 ใบที่ 5 ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย นับเป็นการได้โควตาโอลิมปิกเกมส์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

"เสธ.หมึก" พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่นักปั่นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย  "ทีเจ" จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ดีกรีเหรียญทอง อชก. 18 ประเภทคีริน เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อแข่งขันเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกในประเภทคืริน และผลการจัดอันดับล่าสุดของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เพื่อโควต้าควอลิฟายอลป. 2024 ปรากฏว่า จาย ทำคะแนนสะสมในประเภทคืรินรั้งอันดับ 13 ของโลกมี 2,949 คะแนน คว้าตั๋วเข้าร่วมแข่งขัน อลป. 2024 แน่นอนแล้ว และถือเป็นประวัติศาสตร์ของจักรยานไทยที่คว้าตั๋วไปแข่งในประภทลู่ได้เป็นครั้งแรก รวมถึงเป็นการคว้าตั๋ว อลป. ใบที่ 5 ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ  นับว่าเป็นการคว้าโควตาได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ

"สำหรับการคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ในประเภทคีริน ทางยูซีไอกำหนดไว้ว่า ให้คัดเลือกจากอันดับคัดโอลิมปิกเกมส์ของรายการทีมสปรินท์ก่อน 8 ชาติแรก ซึ่งชาติที่ควอลิฟายประกอบด้วย ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, จีน, เยอรมนี และแคนาดา จากนั้นในประเภทคีริน จะคัดเลือกจาก 7 ชาติ ที่ยังไม่ควอลิฟายในทีมสปรินท์ ซึ่งผลปรากฏว่า 7 ชาติที่ดีที่สุดที่ยังไม่ควอลิฟายในทีมสปรินท์ประกอบด้วย มาเลเซีย, โคลอมเบีย, นิวซีแลนด์, ตรินิแดด แอนด์ โทเบโก, ซูรินัม, อิสราเอล และไทย โดยยูซีไอจะประกาศอย่างเป็นทางการแจ้งให้ทุกชาติที่ผ่านควอลิฟายรับทราบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกแต่ละชาติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ในวันที่ 22 เมษายนนี้ และนอกเหนือจากการได้โควตาคีรินแล้ว จายยังได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการสปรินท์บุคคลโดยอัตโนมัติอีกรายการ" พลเอกเดชา กล่าว

"จากผลงานล่าสุด ส่งผลให้โอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน 2024 กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกีฬาจักรยานไทย ที่เราสามารถผ่านควอลิฟายได้ถึง 5 ที่นั่ง ใน 3 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทถนน ควอลิฟาย 3 ที่นั่งจากไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง, โรดเรซหญิง และโรดเรซชาย ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ควอลิฟาย 1 ที่นั่งจากบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย และประเภทลู่ ควอลิฟาย 2 รายการคือคีรินกับสปรินท์บุคคล โดยเฉพาะในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย เป็นการผ่านควอลิฟายครั้งแรกนับตั้งแต่บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงบรรจุเข้าชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ตั้งแต่ปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ในขณะที่ประเภทลู่ นักปั่นไทยเคยเข้าร่วมชิงชัยครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1976 ที่เมืองมอลทรีล ประเทศแคนาดา และยังไม่เคยผ่านควอลิฟายนับตั้งแต่เริ่มใช้ระบบการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์" นายกสองล้อไทยกล่าว

พลเอกเดชา กล่าวต่อว่า สำหรับจายซึ่งกรำศึกมายาวนานเกือบ 1 ปีเต็มก็จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ระหว่างวันที่ 19 เมษายน - 5 พฤษภาคม จากนั้นก็จะเดินทางกลับไปยังศูนย์ฝึกจักรยานโลกประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่รับศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ระหว่างวันที่  26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม ศกนี้ ขณะเดียวกันสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะส่ง "เจ้าแนว" นายนรเศรษฐ์ธาดา บุญมา นักปั่นดาวรุ่งอีกคนไปแข่งขันรายการนานาชาติ "เอเชี่ยน แทร็ค ซีรี่ส์ เพรสซิเด้นท์ คัพ 1&2" ระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย หากนรเศรษฐ์ธาดาสามารถทำอันดับดีๆ ในการการคีรินและสปรินท์ สามารถเก็บคะแนนสะสมยูซีไอมาเพิ่มได้อีกอย่างน้อย 10 คะแนน ก็จะได้สิทธิ์เป็นตัวสำรองของจายไปร่วมทัพโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรที่นรเศรษฐ์ธาดาจะทำแต้มได้

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนประเภทถนน สมาคมกีฬาจักรยานฯ เก็บตัวฝึกซ้อมนักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ต่อเนื่องมาตลอด และยังคงฝึกซ้อมต่อไปอย่างหนักโดยเฉพาะการขี่ขึ้นเขาที่เป็นปัจจัยสำคัญของสนามแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทางสตาฟฟ์โค้ชวางเส้นทางการฝึกซ้อมไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก แต่เมื่อเจอกับสภาวะมลพิษทางอากาศจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ก็จะย้ายมาปักหลักฝึกซ้อมที่เขาใหญ่ในบางช่วงเวลา ส่วนเดือนสุดท้ายก่อนถึงโอลิมปิกเกมส์ก็จะยกทีมไปฝึกซ้อมและปรับสภาพร่างกายของนักกีฬาที่ประเทศฝรั่งเศสก่อนลุยศึกใหญ่ต่อไป

"สำหรับบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ทีมนักปั่นไทยจะปักหลักฝึกซ้อมอยู่ในประเทศไทย หลังจากที่ได้ไปชิมลางแข่งขันในสนามจริงที่เวนต์ แควนตินในฝรั่งเศสมาแล้ว โดย มร.ฮาร์วี่ เครป หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวสวิสเซอร์แลนด์ได้วางโปรแกรมฝึกซ้อมให้แก่ โกเมธ ให้เข้ากับสภาพสนามแข่งขันจริง โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมแข่งขันจักยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงภายในสวนกีฬากมล ของเอฟบีที ในเขตหนองจอก กทม. และก็ยังจะฝึกซ้อมทั้งด้านเทคนิคและความแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงห้วงเวลาการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ต่อไป นอกจากนั้นในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย สมาคมฯ ตั้งเป้าว่าหาก อภิสิทธิ์ ใจอยู่ ทำผลงานได้ดีหรือคว้าแชมป์ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ก็จะได้สิทธิ์เป็นนักกีฬาสำรองได้ร่วมทีมกับไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 เช่นเดียวกัน" พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport